กรมเจรจาฯ โชว์มูลค่าการค้า FTA 5 เดือนแรกกระฉูด 5.34 ล้านล้านบาท

น.ส.โชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยถึงแผนการเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรี (FTA) และการประชุมระหว่างประเทศ ในช่วงครึ่งหลังปี 2567 ว่า ได้เร่งรัดเจรจาเพื่อเร่งรัดหาข้อสรุป FTA ไทย-สมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (EFTA) และผลักดัน FTA ที่อยู่ระหว่างการเจรจา อาทิ ไทย-สหภาพยุโรป (EU) อาเซียน-แคนาดา และ FTA 2 ฉบับใหม่ คือ ไทย-เกาหลีใต้ และไทย-ภูฏาน รวมทั้งผลักดันให้มีการใช้ประโยชน์จาก FTA เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการไทย ซึ่งเป็นไปตามนโยบายรัฐบาลและรองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ นายภูมิธรรม เวชยชัยที่ให้ความสำคัญกับการเจรจาจัดทำ FTA เพื่อเปิดประตูสู่ตลาดใหม่ๆ และขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุนของไทยในตลาดโลก สำหรับในช่วง 5 เดือน (ม.ค.-พ.ค. 2567) การค้าของไทยกับ 18 ประเทศคู่ค้า FTA มีมูลค่า 145.5 พันล้านดอลลาร์ ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 0.1 โดยไทยส่งออกไปประเทศคู่ค้า FTA มูลค่า 70.9 พันล้านดอลลาร์ ขยายตัวร้อยละ 2.4 และไทยนำเข้าจากประเทศคู่ค้า FTA มูลค่า 74.6 พันล้านดอลลาร์ หดตัวร้อยละ 2.0

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/economics/news_777777804663

‘GDP’ เวียดนามไตรมาสสองปี 67 โต 6.93%

สำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) เปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของเวียดนามในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2567 ขยายตัว 6.93% นับว่าเป็นการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงสุดครั้งที่ 2 ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา เป็นผลมาจากภาคบริการที่เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจเวียดนาม ขยายตัว 7.06% เมื่อเทียบเป็นรายปี ตามมาด้วยภาคเกษตรกรรม ขยายตัว 3.34% และภาคอุตสาหกรรม ขยายตัว 8.29% ในขณะที่เมื่อพิจารณาตัวเลขเศรษฐกิจเวียดนามในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ GDP เวียดนาม ขยายตัว 6.42% ซึ่งต่ำกว่าเล็กน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่ขยายตัว 6.58%

นอกจากนี้ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ เพิ่มขึ้น 4.39% เมื่อเทียบเป็นรายปี

ที่มา : https://english.thesaigontimes.vn/vietnams-gdp-grows-6-93-in-q2/

‘ผู้เชี่ยวชาญสหรัฐฯ’ ชี้เวียดนามมีศักยภาพที่จะผลักดันอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์

นาย Richard Lawton Thurston ผู้เชี่ยวชาญด้านเซมิคอนดักเตอร์ ได้แสดงความคิดเห็นในระหว่างการประชุม ณ กรุงวอชิงตัน ดีซีกับ นาย Nguyen Chi Dung รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการวางแผนและการลงทุน กล่าวว่าเวียดนามมีศักยภาพอย่างมากที่จะส่งเสริมอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ผ่านบุคลากรรุ่นใหม่และการฝึกอบรม

ทั้งนี้ เวียดนามและสหรัฐฯ ร่วมกันเป็นพันธมิตรและหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ โดยเฉพาะทางด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม และยังสนับสนุนเวียดนามในการปรับปรุงการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ ตลอดจนมีส่วนร่วมในห่วงโซ่คุณค่าระดับโลก

นอกจากนี้ เวียดนามพัฒนาโครงการส่งเสริมทรัพยากรมนุษย์สำหรับอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์จนถึงปี 2573 โดยมุ่งเน้นไปที่การฝึกอบรมเชิงลึกอาจารย์ 1,300 คน และวิศวกร 50,000 คน รวมถึงจัดตั้งห้องปฏิบัติการเซมิคอนดักเตอร์ระดับชาติ 4 แห่ง และห้องปฏิบัติการผลิตอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์ 18 แห่ง

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1658394/vn-has-huge-potential-in-semiconductor-industry-us-expert.html

YRIC รับรอง 3 โครงการในประเทศ 4 โครงการต่างประเทศ

ในการประชุมครั้งล่าสุด 6/2567 ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน คณะกรรมการการลงทุนภูมิภาคย่างกุ้ง (YRIC) ไฟเขียวแก่วิสาหกิจในประเทศ 3 แห่งที่เป็นของพลเมืองเมียนมา และวิสาหกิจต่างชาติทั้งหมด 4 แห่ง โดยมีทุนจดทะเบียนประมาณ 4.845 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และ 4.02 พันล้านจ๊าด อย่างไรก็ดี วิสาหกิจในประเทศ 3 แห่งจะอัดฉีดการลงทุนในภาคโรงแรม และในส่วนของวิสาหกิจต่างชาติทั้ง 4 แห่งจะมีการลงทุนในภาคการผลิตเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย เบาะรองนั่ง การทำผ้านวม และของเล่น โดยพื้นฐานการตัด การผลิต และบรรจุภัณฑ์ (CMP) การผลิตผ้ารองและการทำผ้านวมถูกกำหนดไว้เพื่อจำหน่ายในประเทศร้อยละ 80 และส่งออกร้อยละ 20 ธุรกิจเหล่านั้นจะสร้างงานมากกว่า 3,000 ตำแหน่ง

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/yric-endorses-3-domestic-projects-4-foreign-projects/

สมาพันธ์ข้าวเมียนมาขยายโครงการข้าวราคาถูกไปยังภูมิภาค/รัฐอื่นๆ

ตามประกาศของสหพันธ์ข้าวเมียนมา (MRF) เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน โครงการข้าวราคาไม่แพงของสหพันธ์ข้าวเมียนมาจะเข้าถึงภูมิภาคและรัฐต่างๆ มากขึ้น ปัจจุบัน MRF จำหน่ายข้าวพันธุ์ Shwebo Pawsan, Ayeyawady Pawsan และ Aemahta ในราคาที่ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงได้ในภูมิภาค เนปิดอว์, ย่างกุ้ง, มัณฑะเลย์, พะโค และ Ayeyawady โดยการประสานงานกับโรงสีข้าว ร้านขายข้าว และคลังน้ำมัน โดยโครงการราคาถูกครอบคลุมร้านค้า 58 แห่งในย่างกุ้ง 120 แห่งในมัณฑะเลย์ และ 96 แห่งในเนปิดอว์ ทั้งนี้ ยังมีบริการจัดส่งตรงถึงบ้านที่จะเริ่มในวันที่ 1 กรกฎาคม ในเมืองเนปิดอว์ ย่างกุ้ง และมัณฑะเลย์ อย่างไรก็ตาม สมาพันธ์ฯ จะจัดให้มีสถาบันทางสังคม ศาสนา หน่วยงานราชการ โรงงาน และร้านอาหาร รับซื้อข้าวในราคาที่เหมาะสมและสมเหตุสมผล นอกจากนี้ ตั้งแต่วันที่ 27 มิถุนายน เป็นต้นไป ซุปเปอร์มาร์เก็ต มินิมาร์ท และศูนย์การค้า จะกลับมาเปิดจำหน่ายข้าวพันธุ์ Shwebo Pawsan, Ayeyawady Pawsan และ Aemahta แบบแพ็คบริโภค (ถุงเล็ก กล่อง ภาชนะ) ในราคาต่ำกว่าอัตราเดิม

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/mrf-extends-affordable-rice-scheme-to-other-regions-states/

อัตราเงินเฟ้อ สปป.ลาว มิถุนายน 67 แตะ 26.2% สูงที่สุดในรอบ 6 เดือน

อัตราเงินเฟ้อ สปป.ลาว เดือนมิถุนายน 67 เพิ่มขึ้นเป็น 26.2% จาก 25.8% ในเดือนก่อน นับเป็นอัตราสูงสุดในรอบ 6 เดือนของปีนี้ โดยราคาสินค้าในกลุ่มการดูแลสุขภาพและยารักษาโรคมีความผันผวนสูงอยู่ที่ 41.7% รองลงมาคือ ร้านอาหารและโรงแรมที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 35.3% ที่อยู่อาศัย น้ำ ไฟฟ้า และเชื้อเพลิงเครื่องปรุงรสและอาหารปรับตัวเพิ่มขึ้น 32.5% นอกจากนี้ ยังมีสินค้าอื่นๆ ที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ได้แก่ เสื้อผ้าและรองเท้า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์และยาสูบ อาหารและเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ ปัจจัยที่ส่งผลต่อแรงกดดันด้านเงินเฟ้อใน สปป.ลาว เกิดจากค่าเงินกีบที่อ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินต่างประเทศหลัก เช่น ดอลลาร์สหรัฐ บาทไทย และหยวนจีน ส่งผลกระทบอย่างมากต่อราคาสินค้าและบริการนำเข้า รวมถึงความสามารถในการผลิตภายในประเทศที่อ่อนแอ ทำให้แนวโน้มเงินเฟ้อรุนแรงขึ้น เนื่องจาก สปป.ลาว ต้องพึ่งพาการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคและวัตถุดิบอย่างมาก ซึ่งเพิ่มผลกระทบของค่าเงินอ่อนค่าต่ออัตราเงินเฟ้อ นอกจากนี้ การเพิ่มขึ้นของอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มเป็น 10% ได้ผลักดันราคาสินค้าโภคภัณฑ์ให้สูงขึ้นอีก

ที่มา : https://laotiantimes.com/2024/06/27/laos-june-inflation-hits-26-2-percent-highest-in-2024/

‘S&P Global’ ประเมินอันดับเครดิตเวียดนามไว้ที่ BB+

สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือของโลก (S&P Global) รายงานว่าเวียดนามได้รับการปรับขึ้นอันดับเครดิตสู่ BB+ จาก B พร้อมกับคาดการณ์แนวโน้มมีเสถียรภาพ เศรษฐกิจเวียดนามจะปรับตัวดีขึ้นในช่วง 12 เดือนข้างหน้า เนื่องจากอุปสงค์โลกที่เพิ่มสูงขึ้น และประเทศต่างๆ เริ่มคลี่คลายอุปสรรคในประเทศ โดยอันดับเครดิตสะท้อนได้จากการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของประเทศ ตลอดจนระดับหนี้ของภาครัฐฯ ที่อยู่ในระดับคงที่ และปัจจัยภายนอกที่แข็งแกร่ง ด้วยเหตุนี้ เวียดนามจึงได้รับการประเมินในเชิงบวก สาเหตุจากบริษัทข้ามชาติกระจายการลงทุนในภูมิภาคนี้ และเวียดนามได้รับประโยชน์จากการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ที่เม็ดเงินทุนจำนวนมากไหลเข้าไปสู่ภาคการผลิตในอีกหลายปีข้างหน้า

ที่มา : https://ven.congthuong.vn/vietnams-ratings-affirmed-at-bb-with-stable-outlook-51221.html

เรือสินค้า 27 ลำให้บริการในเส้นทางการค้ามัณฑะเลย์ในสัปดาห์ที่ 2 และ 3 ของเดือนมิถุนายน

จากสถิติของกรมบริหารทางทะเลแห่งมัณฑะเลย์ พบว่าเรือบรรทุกสินค้า 27 ลำแล่นไปยังย่างกุ้ง พะโค และเมืองอื่นๆ ระหว่างวันที่ 10 ถึง 19 มิถุนายน โดยมีการบรรทุกปูนซีเมนต์มากกว่า 7,170 ตัน ข้าวโพดมากกว่า 12,590 ตัน และถุงกรวดปูนขาว 350 ลูกบาศก์ฟุต อย่างไรก็ดี เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมามีรายงานว่า มีเรือบรรทุกสินค้า 93 ลำออกจากท่าเรือมัณฑะเลย์เพื่อขนส่งสินค้า ทั้งนี้ กรมเจ้าท่ายังเตือนผู้ควบคุมเรือบรรทุกเกินพิกัด เนื่องจากกระแสน้ำวนก่อตัวขึ้นในเขตอิระวดีครั้งแรกตั้งแต่สัปดาห์ที่สองของเดือนมิถุนายน ซึ่งพวกเขามีมาตรการจัดการความปลอดภัยทางทะเลตามขนาดและสินค้า และนำทางด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่ง

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/27-freighters-serve-mandalay-trade-routes-in-2nd-3rd-week/#article-title

‘เวียดนาม-อินโดนีเซีย’ ตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าการค้าทวิภาคี 18 พันล้านเหรียญสหรัฐ ปี 71

จากการประชุม Vietnam-Indonesia Business Forum ประจำปี 2567 เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. เวียดนามและอินโดนีเซียได้ตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มมูลค่าการค้าทวิภาคี อยู่ที่ 18 พันล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 2571 จากปี 2566 ที่อยู่ในระดับ 14 พันล้านเหรียญสหรัฐ การประชุมในครั้งนี้จัดขึ้นโดยสมาคมธุรกิจเวียดนามในอินโดนีเซียและสถานทูตเวียดนามในอินโดนีเซีย

ทั้งนี้ เอกอัครราชทูตเวียดนามในอินโดนีเซีย กล่าวว่าการเติบโตที่แข็งแกร่งทั้งด้านเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศนั้น ทำให้อินโดนีเซียเป็นคู้ค้ารายใหญ่อันดับ 3 ของเวียดนามในกลุ่มประเทศอาเซียน ในขณะที่เวียดนามเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับ 4 ของอินโดนีเซีย และการค้าทวิภาคีของทั้งสองประเทศในปี 2566 มีมูลค่ารวมกันทั้งสิ้นราว 14 พันล้านเหรียญสหรัฐ

นอกจากนี้ ประธานสมาคมธุรกิจเวียดนามในอินโดนีเซีย กล่าวว่าสมาคมประสบความสำเร็จในการเชื่อมโยงธุรกิจกว่า 30 ราย และมีการจัดกิจกรรมจำนวนมาก ร่วมกับสำนักงานการค้าเวียดนามในอินโดนีเซียที่ให้ความช่วยเหลือทางด้านกฎหมายและการประกอบธุรกิจ

ที่มา : https://english.thesaigontimes.vn/vietnam-indonesia-eye-us18-billion-in-bilateral-trade-by-2028/

มูลค่าการซื้อขายในตลาดทุนเมียนมารวม 1.5 พันล้านจ๊าด ในเดือนพฤษภาคม

ตามรายงานรายเดือนที่เผยแพร่โดยตลาดหลักทรัพย์เมียนมา มูลค่าการซื้อขายครั้งใหญ่ของบริษัทจดทะเบียนทั้ง 8 แห่งในตลาดหลักทรัพย์ย่างกุ้ง (YSX) จดทะเบียนสูงสุดกว่า 1.558 พันล้านจ๊าด โดยมีหุ้นซื้อขาย 603,906 หุ้นในเดือนพฤษภาคม ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ตลาดทุนจดทะเบียนมีมูลค่าการซื้อขาย 1 พันล้านจ๊าด ด้วยหุ้น 425,102 ในเดือนมกราคม, 693 ล้านจ๊าด ด้วย 253,178 หุ้น ในเดือนกุมภาพันธ์, 1.34 พันล้านจ๊าด ด้วย 560,687 หุ้นในเดือนมีนาคม และ 473 ล้านจ๊าด ด้วย 177,812 หุ้นในเดือนเมษายน ตามลำดับ ปัจจุบันหุ้นของบริษัทจดทะเบียน 8 แห่ง ได้แก่ First Myanmar Investment (FMI), Myanmar Thilawa SEZ Holdings (MTSH), Myanmar Citizens Bank (MCB), First Private Bank (FPB), TMH Telecom Public Co Ltd (TMH), Ever Flow River Group Public Co Ltd (EFR), Amata Holding Public Co Ltd (AMATA) และ Myanmar Agro Exchange Public Co Ltd (MAEX) มีการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ อย่างไรก็ดี เดือนที่ผ่านมา หุ้น MTSH ติดอันดับการซื้อขายด้วยหุ้นจำนวน 294,185 หุ้น คิดเป็นมูลค่า 854.24 ล้านจ๊าด ตามด้วยหุ้น FPB 202,769 หุ้น มูลค่ามากกว่า 311.78 ล้านจ๊าด หุ้น FMI 21,582 หุ้น มูลค่า 188.67 ล้านจ๊าด, หุ้น EFR 39,500 หุ้น มูลค่ามากกว่า 65.69 ล้านจ๊าด, หุ้น MAEX จำนวน 28,410 หุ้น มูลค่า 59.99 ล้านจ๊าด, หุ้น MCB 5,784 หุ้น มูลค่า 46.28 ล้านจ๊าด, หุ้น TMH 11,230 หุ้น มูลค่า 29.76 ล้านจ๊าด และหุ้น AMATA 446 หุ้น มูลค่า 2.06 ล้านจ๊าด ตามลำดับ

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/equity-market-trading-value-totals-k1-5b-in-april/