ผวจ.ตราด พัฒนาเศรษฐกิจหลายด้าน เพิ่มศักยภาพการค้าชายแดนกัมพูชา

นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด เปิดเผยว่า จังหวัดตราดเป็นจังหวัดสุดท้ายของภาคตะวันออกและเป็นจังหวัดเล็กๆ แต่เป็นจังหวัดที่มีศักยภาพสูงทางด้านภูมิศาสตร์ เพราะมีพื้นที่ติดชายแดนไทย-กัมพูชาทั้ง 3 จังหวัดสำคัญของกัมพูชา คือด้าน อ.บ่อไร่ ติดกับ อ.สำรูด จ.พระตะบอง ที่ปัจจุบันมีจุดผ่อนปรนการค้าเพื่อไปมาหาสู่และค้าขายสินค้าระหว่างกัน,ด้าน อ.เมือง ติดกับ อ.เวียงเวล จ.โพธิสัตว์ ที่ยังเป็นช่องทางธรรมชาติ แต่กำลังมีความพยายามยกระดับให้เป็นจุดผ่านแดนถาวร และ อ.คลองใหญ่ จ.ตราด ติดกับ อ.มณฑลเสมา จ.เกาะกง ที่ปัจจุบันเป็นจุดผ่านแดนถาวร ซึ่งมีการค้าขายระหว่างกันมีมูลค่ากว่า 3.8 หมื่นล้านบาทต่อปี และมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ ในขณะเดียวกันจังหวัดตราด ยังมีแหล่งท่องเที่ยวทั้งชายทะเล และมีเกาะกว่า 52 เกาะ ซึ่งปัจจุบันมี 3-4 เกาะที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับนานาชาติ ที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยวกว่า 2 ล้านคน และมีรายได้จากธุรกิจท่องเที่ยวเกิน 2 หมื่นล้านบาทต่อปี

ที่มา : https://www.naewna.com/local/733732

กัมพูชา-สหราชอาณาจักร ลงนาม MoU บนข้อตกลงการค้าและการลงทุนระหว่างกัน

กระทรวงพาณิชย์กัมพูชา ร่วมกับกระทรวงการค้าระหว่างประเทศแห่งสหราชอาณาจักรได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MoU) ในการจัดตั้ง Joint Trade and Investment Forum (JTIF) ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือทางการค้าระหว่างทั้งสองประเทศ รวมถึงส่งเสริมการส่งออกสินค้าของกัมพูชาไปยังตลาดสหราชอาณาจักร โดยเฉพาะสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรม และจะเป็นการเพิ่มปริมาณการนำเข้า การลงทุนของอังกฤษไปยังกัมพูชามากขึ้น ซึ่งการลงนามดังกล่าวนำโดย Pan Sorasak รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับ Dominic Williams เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำกัมพูชา เมื่อวันที่ 26 พ.ค. ที่ผ่านมา ณ กระทรวงพาณิชย์ จากข้อมูลของกรมศุลกากรและสรรพสามิตกัมพูชา สหราชอาณาจักรถือเป็นหนึ่งในคู่ค้ารายใหญ่ของกัมพูชา โดยมีปริมาณการค้าระหว่างสองประเทศในปี 2022 สูงถึง 977.43 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 24.42 เมื่อเทียบกับปีก่อน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501297887/cambodia-uk-sign-trade-and-investment-mou/

ม.ค.-เม.ย. กัมพูชาส่งออกแตะ 7.23 พันล้านดอลลาร์

ในช่วงเดือน มกราคม-เมษายน 2023 กัมพูชาส่งออกสินค้าไปยังตลาดต่างประเทศมูลค่าแตะ 7.23 พันล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 4.9 จากมูลค่า 7.6 พันล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน นำโดยเสื้อผ้า รองเท้า และสินค้าสำหรับการเดินทาง รวมถึงผลิตผลทางการเกษตรเป็นสินค้าหลักสำหรับการส่งออกของกัมพูชา รายงานโดยนายกรัฐมนตรีฮุน เซน ด้านกรมศุลกากรและสรรพสามิต ได้รายงานเสริมว่า ปลายทางการส่งออก 5 อันดับแรกของกัมพูชา ได้แก่ สหรัฐอเมริกา เวียดนาม สิงคโปร์ จีน และญี่ปุ่น เป็นสำคัญ ในขณะเดียวกัน กัมพูชาทำการนำเข้ารวม 7.92 พันล้านดอลลาร์ ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ ลดลงร้อยละ 21 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สินค้านำเข้าที่สำคัญ ได้แก่ น้ำมันและก๊าซ วัตถุดิบสำหรับเครื่องนุ่งห่ม รองเท้า และสินค้าเดินทาง ยานพาหนะ เครื่องจักร เครื่องใช้อิเล็กทรอนิกส์ และสินค้าอุปโภคบริโภค เป็นสำคัญ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501297920/cambodia-exports-products-worth-7-23-billion-in-january-april-as-deficit-widens/

รัฐบาลกัมพูชา เห็นชอบร่างกฎหมายว่าด้วยแหล่งกำเนินสินค้า

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา รัฐบาลได้อนุมัติร่างกฎหมายว่าด้วยแหล่งกำเนิดสินค้า โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยส่งเสริมและอำนวยความสะดวกทางการค้าที่ได้รับประโยชน์จากสิทธิพิเศษทางการค้า นอกจากนี้ยังจะช่วยป้องกันการปลอมแปลงของสินค้าที่มีการผลิตในกัมพูชา ซึ่งร่างกฎหมายดังกล่าวได้รับการอนุมัติในการประชุมระหว่างคณะรัฐมนตรีประจำสัปดาห์ ที่มีนายกรัฐมนตรีฮุน เซน เป็นประธาน ซึ่งร่างกฎหมายนี้มี 9 บท และมี 35 มาตรา ในการกำหนดหลักการและกฎเกณฑ์สำหรับการกำหนดแหล่งกำเนิดของสินค้าที่ส่งออกและนำเข้าระหว่างกัมพูชา

นอกจากนี้ยังช่วยให้กัมพูชาสามารถปฏิบัติตามพันธกรณีภายใต้กรอบ WTO และส่งเสริม อำนวยความสะดวกทางการค้ากับภาคเอกชน โดยเฉพาะการส่งออกสินค้ากัมพูชาที่ได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรจากประเทศผู้นำเข้าที่ให้สิทธิพิเศษทางการค้ากับกัมพูชาและภายใต้การค้าเสรีต่างๆ รวมถึงความตกลงที่กัมพูชาเป็นสมาชิก ซึ่งในปี 2022 กัมพูชาส่งออกสินค้าเกษตรที่ได้รับการรับรองรวม 8.6 ล้านตัน ไปยังตลาดต่างประเทศ 74 แห่ง

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501294323/government-approves-draft-law-on-rules-of-origin/

4 เดือนแรกของปี กัมพูชาอนุมัติโครงการลงทุนมูลค่ารวม 588 ล้านดอลลาร์

สภาเพื่อการพัฒนาแห่งกัมพูชา (CDC) อนุมัติโครงการลงทุนกว่า 65 โครงการ มูลค่าการลงทุนมากกว่า 588 ล้านดอลลาร์ ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนจากประเทศจีนเป็นสำคัญ คิดเป็นกว่าร้อยละ 73.5 ของ FDI ทั้งหมดที่ได้เข้ามาลงทุนยังกัมพูชา ด้าน Chea Vuthy รองเลขาธิการ CDC กล่าวเสริมว่า FDI มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาระบบเศรษฐกิจและสังคมของกัมพูชา รวมถึงก่อให้เกิดการสร้างงานให้กับคนในท้องถิ่น และเป็นการเพิ่มปริมาณการส่งออกไปยังต่างประเทศ โดยการลงทุนของจีนที่เพิ่มขึ้นสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างประเทศ อีกทั้งสภาพแวดล้อมด้านการลงทุนที่เอื้ออำนวยต่อการลงทุน ไปจนถึงกัมพูชายังมีข้อตกลงการค้าเสรีในระดับทวิภาคีอีกหลายฉบับ อาทิเช่น FTA กัมพูชา-จีน, FTA กัมพูชา-เกาหลี และ RCEP

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501294135/588m-investment-projects-approved-in-four-months/

ธนาคารโลก แนะกัมพูชากระจายความเสี่ยงด้านผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยว

ธนาคารโลกคาดการณ์เศรษฐกิจกัมพูชากำลังฟื้นตัว แนะกัมพูชาควรกระจายความเสี่ยงไปยังอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อเสริมความมั่นคงทางระบบเศรษฐกิจ โดยคาดการณ์ว่าการเติบโตจะเร่งตัวขึ้นเป็นร้อยละ 5.5 ในปี 2023 นำโดยการส่งออกและภาคการผลิตภายในประเทศ แต่ถึงอย่างไรการชะลอตัวที่เพิ่มขึ้นของอุปสงค์ภายนอก อาจทำให้ภาคการผลิตที่เน้นการส่งออกของกัมพูชาชะลอตัวลง ในขณะที่ภาคการเงินทั่วโลกตึงตัวอย่างต่อเนื่อง โดยในระยะกลางธนาคารโลกคาดว่าการเติบโตของกัมพูชาจะขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 6 ซึ่งได้แรงหนุนจากการส่งออกสินค้าและบริการที่แข็งแกร่ง และการลงทุนที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ภายใต้ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน สำหรับโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ เช่น ท่าเรือและถนน เพื่อเอื้อต่อการเชื่อมต่อการขนส่งในภูมิภาค รวมถึงการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้มีความสามารถมากยิ่งขึ้น ควบคู่ไปกับการเพิ่มเสถียรภาพทางการเงินภายในประเทศ และการส่งเสริมการส่งออกที่หลากหลายในการเสริมความยืดหยุ่นและความสามารถในการแข่งขันของระบบเศรษฐกิจกัมพูชา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501293706/world-bank-says-cambodia-needs-to-diversify-its-tourism-products-and-improve-its-trade-competitiveness/

EU หนุนกัมพูชา ส่งเสริมด้านการค้าระหว่างประเทศ

สหภาพยุโรป (EU) พร้อมให้การสนับสนุนกัมพูชาทางด้านเทคนิค ในการริเริ่มโครงการ “ARISE Plus Cambodia” ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อช่วยเหลือภาคธุรกิจของกัมพูชาในการปฏิบัติและดำเนินการตามมาตรฐานสากล เพื่อเป็นการสนับสนุนการส่งออกไปยังสหภาพยุโรป และตลาดอื่นๆ ในภูมิภาค โดยองค์ประกอบหลักสามประการของโครงการ ARISE Plus Cambodia ได้แก่ นโยบายการค้า การอำนวยความสะดวกทางการค้า และการเพิ่มขีดความสามารถของภาคเอกชน ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างคณะผู้แทนสหภาพยุโรปและรัฐมนตรีต่างประเทศของกัมพูชา Sok Sopheak โดยโครงการดังกล่าวสอดคล้องกับกรอบการดำเนินการตามยุทธศาสตร์การบูรณาการการค้าของกัมพูชา (CITS 2019-2023) ซึ่งจะเน้นการสนับสนุนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในประเทศให้เข้ากับห่วงโซ่คุณค่าในระดับภูมิภาคและระดับโลกเป็นสำคัญ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501293704/eu-backed-project-to-boost-cambodias-trade/

GDT กัมพูชา ช่วยให้ผู้เสียภาษีสามารถจ่ายภาษีประจำปีทางออนไลน์ได้

กรมภาษีอากร (GDT) หน่วยงานภายใต้กระทรวงเศรษฐกิจและการคลัง (MEF) ได้ออกคำแนะนำเกี่ยวกับขั้นตอนเพื่อให้ผู้เสียภาษีซึ่งเป็นเจ้าของธุรกิจที่จดทะเบียนในระบบ สามารถยื่นภาษีประจำปีผ่านช่องทางออนไลน์ (ToI E-Filing) โดยคำสั่งของ GDT ได้ถูกเผยแพร่เมื่อวันที่ 15 พ.ค. 2566 เพื่อช่วยให้ผู้เสียภาษีเกิดความสะดวกในการชำระภาษี ลดความสับสนและซับซ้อน รวมถึงลดความผิดพลาดในขั้นตอนของการยื่นภาษี สำหรับการยื่นแบบแสดงรายได้และชำระภาษีเงินได้ ทั้งในรูปแบบรายเดือนและรายปีผ่านระบบออนไลน์เต็มรูปแบบ สำหรับผู้เสียภาษีทุกประเภท ได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนมกราคม 2023 เป็นต้นไป หลังจากที่ GDT ได้ยุติระบบการยื่นเอกสารรูปแบบเดิม โดยได้ริเริ่มระบบใหม่ที่เรียกว่า E-Administration ที่ช่วยให้ผู้เสียภาษีสามารถยื่นเอกสารทุกประเภท รวมถึงชำระภาษีส่งไปยัง GDT ผ่านระบบ E-Filing, ToI E-Filing และ Tax Prefiling

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501290817/gdt-allows-taxpayers-to-adjust-annual-tax-online/

4 เดือนแรกของปี 2023 กัมพูชานำเข้า น้ำมัน-ก๊าซ แตะ 1.15 พันล้านดอลลาร์

การนำเข้าน้ำมันและก๊าซของกัมพูชาในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2023 อยู่ที่มูลค่า 1.15 พันล้านดอลลาร์ ลดลงเล็กน้อยร้อยละ 0.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2022 ตามรายงานของกรมศุลกากรและสรรพสามิตกัมพูชา ปัจจุบันกัมพูชานำเข้าน้ำมันและก๊าซทั้งหมด ซึ่งยังไม่มีการผลิตและจำหน่ายภายในประเทศ เนื่องจากน้ำมันและก๊าซสำรองนอกชายฝั่งยังอยู่ในขั้นของการพัฒนา  นับตั้งแต่วิกฤตรัสเซีย-ยูเครนเริ่มต้นขึ้นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2022 ส่งผลให้ราคาน้ำมันในกัมพูชาพุ่งสูงขึ้น ทำให้เกิดแรงกระเพื่อมต่อราคาสินค้าและบริการอื่นๆ เป็นวงกว้าง ด้านนาย Penn Sovicheat โฆษกกระทรวงพาณิชย์ ระบุก่อนหน้านี้ แม้ความต้องการจะเพิ่มขึ้น แต่กัมพูชามีน้ำมันคงคลังเพียงพอต่อการบริโภคภายในท้องถิ่นอยู่ที่ 15 ถึง 20 วัน โดยไม่ต้องนำเข้า  ส่วนความต้องการผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมของกัมพูชาคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 2.8 ล้านตัน ในปี 2020 เป็น 4.8 ล้านตัน ในปี 2030

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501290819/oil-and-gas-imports-reach-1-15b-in-four-months/

กัมพูชาได้รับการอนุมัติในการส่งออกพริกไทยไปยังจีน

สำนักงานศุลกากรจีน (GACC) อนุมัติข้อเสนอการส่งออกพริกไทยของกัมพูชาไปยังจีน โดยได้อนุมัติโรงงานผลิตพริกไทยในกัมพูชา 7 แห่ง รวมถึงฟาร์มพริกไทยที่ได้จดทะเบียนในการเพาะปลูก 28 แห่ง สำหรับการส่งออกพริกไทยไปยังจีน ซึ่งเกษตรกรผู้ปลูกพริกไทยในประเทศคาดว่าจะได้รับประโยชน์จากการอนุมัติในครั้งนี้ โดยจะช่วยเพิ่มการผลิตและการกระจายตลาดไปยังต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งพริกไทยถือเป็นหนึ่งในพืชเศรษฐกิจที่กำลังมาแรง เนื่องจากเป็นเครื่องเทศชนิดแรกของกัมพูชาที่ได้รับการอนุมัติให้ส่งออกโดยตรงไปยังจีนในปีนี้ อย่างไรก็ตาม สถานเอกอัครราชทูตฯ ไม่ได้ระบุว่าการส่งออกสินค้าครั้งแรกจากกัมพูชาจะเกิดขึ้นเมื่อใด โดยตั้งแต่ต้นปี 2022 กัมพูชามีพื้นที่เพาะปลูกประมาณ 6,000 เฮกตาร์ ซึ่งมีผลผลิตเฉลี่ยปีละ 20,000 ถึง 30,000 ตัน ขณะที่รายงานระบุว่ากัมพูชาส่งออกพริกไทยไปยังต่างประเทศจำนวนกว่า 822,654 ตัน ในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ ด้านสมาพันธ์พริกไทยและเครื่องเทศกัมพูชา กล่าวว่า ราคาพริกไทยในปัจจุบันอยู่ระหว่าง 3,000-3,500 ดอลลาร์ต่อตัน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501290261/cambodian-pepper-gets-china-approval-for-direct-exports/