ม.ค.-เม.ย. กัมพูชาส่งออกแตะ 7.23 พันล้านดอลลาร์

ในช่วงเดือน มกราคม-เมษายน 2023 กัมพูชาส่งออกสินค้าไปยังตลาดต่างประเทศมูลค่าแตะ 7.23 พันล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 4.9 จากมูลค่า 7.6 พันล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน นำโดยเสื้อผ้า รองเท้า และสินค้าสำหรับการเดินทาง รวมถึงผลิตผลทางการเกษตรเป็นสินค้าหลักสำหรับการส่งออกของกัมพูชา รายงานโดยนายกรัฐมนตรีฮุน เซน ด้านกรมศุลกากรและสรรพสามิต ได้รายงานเสริมว่า ปลายทางการส่งออก 5 อันดับแรกของกัมพูชา ได้แก่ สหรัฐอเมริกา เวียดนาม สิงคโปร์ จีน และญี่ปุ่น เป็นสำคัญ ในขณะเดียวกัน กัมพูชาทำการนำเข้ารวม 7.92 พันล้านดอลลาร์ ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ ลดลงร้อยละ 21 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สินค้านำเข้าที่สำคัญ ได้แก่ น้ำมันและก๊าซ วัตถุดิบสำหรับเครื่องนุ่งห่ม รองเท้า และสินค้าเดินทาง ยานพาหนะ เครื่องจักร เครื่องใช้อิเล็กทรอนิกส์ และสินค้าอุปโภคบริโภค เป็นสำคัญ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501297920/cambodia-exports-products-worth-7-23-billion-in-january-april-as-deficit-widens/

รัฐบาลกัมพูชา เห็นชอบร่างกฎหมายว่าด้วยแหล่งกำเนินสินค้า

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา รัฐบาลได้อนุมัติร่างกฎหมายว่าด้วยแหล่งกำเนิดสินค้า โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยส่งเสริมและอำนวยความสะดวกทางการค้าที่ได้รับประโยชน์จากสิทธิพิเศษทางการค้า นอกจากนี้ยังจะช่วยป้องกันการปลอมแปลงของสินค้าที่มีการผลิตในกัมพูชา ซึ่งร่างกฎหมายดังกล่าวได้รับการอนุมัติในการประชุมระหว่างคณะรัฐมนตรีประจำสัปดาห์ ที่มีนายกรัฐมนตรีฮุน เซน เป็นประธาน ซึ่งร่างกฎหมายนี้มี 9 บท และมี 35 มาตรา ในการกำหนดหลักการและกฎเกณฑ์สำหรับการกำหนดแหล่งกำเนิดของสินค้าที่ส่งออกและนำเข้าระหว่างกัมพูชา

นอกจากนี้ยังช่วยให้กัมพูชาสามารถปฏิบัติตามพันธกรณีภายใต้กรอบ WTO และส่งเสริม อำนวยความสะดวกทางการค้ากับภาคเอกชน โดยเฉพาะการส่งออกสินค้ากัมพูชาที่ได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรจากประเทศผู้นำเข้าที่ให้สิทธิพิเศษทางการค้ากับกัมพูชาและภายใต้การค้าเสรีต่างๆ รวมถึงความตกลงที่กัมพูชาเป็นสมาชิก ซึ่งในปี 2022 กัมพูชาส่งออกสินค้าเกษตรที่ได้รับการรับรองรวม 8.6 ล้านตัน ไปยังตลาดต่างประเทศ 74 แห่ง

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501294323/government-approves-draft-law-on-rules-of-origin/

4 เดือนแรกของปี กัมพูชาอนุมัติโครงการลงทุนมูลค่ารวม 588 ล้านดอลลาร์

สภาเพื่อการพัฒนาแห่งกัมพูชา (CDC) อนุมัติโครงการลงทุนกว่า 65 โครงการ มูลค่าการลงทุนมากกว่า 588 ล้านดอลลาร์ ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนจากประเทศจีนเป็นสำคัญ คิดเป็นกว่าร้อยละ 73.5 ของ FDI ทั้งหมดที่ได้เข้ามาลงทุนยังกัมพูชา ด้าน Chea Vuthy รองเลขาธิการ CDC กล่าวเสริมว่า FDI มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาระบบเศรษฐกิจและสังคมของกัมพูชา รวมถึงก่อให้เกิดการสร้างงานให้กับคนในท้องถิ่น และเป็นการเพิ่มปริมาณการส่งออกไปยังต่างประเทศ โดยการลงทุนของจีนที่เพิ่มขึ้นสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างประเทศ อีกทั้งสภาพแวดล้อมด้านการลงทุนที่เอื้ออำนวยต่อการลงทุน ไปจนถึงกัมพูชายังมีข้อตกลงการค้าเสรีในระดับทวิภาคีอีกหลายฉบับ อาทิเช่น FTA กัมพูชา-จีน, FTA กัมพูชา-เกาหลี และ RCEP

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501294135/588m-investment-projects-approved-in-four-months/

ธนาคารโลก แนะกัมพูชากระจายความเสี่ยงด้านผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยว

ธนาคารโลกคาดการณ์เศรษฐกิจกัมพูชากำลังฟื้นตัว แนะกัมพูชาควรกระจายความเสี่ยงไปยังอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อเสริมความมั่นคงทางระบบเศรษฐกิจ โดยคาดการณ์ว่าการเติบโตจะเร่งตัวขึ้นเป็นร้อยละ 5.5 ในปี 2023 นำโดยการส่งออกและภาคการผลิตภายในประเทศ แต่ถึงอย่างไรการชะลอตัวที่เพิ่มขึ้นของอุปสงค์ภายนอก อาจทำให้ภาคการผลิตที่เน้นการส่งออกของกัมพูชาชะลอตัวลง ในขณะที่ภาคการเงินทั่วโลกตึงตัวอย่างต่อเนื่อง โดยในระยะกลางธนาคารโลกคาดว่าการเติบโตของกัมพูชาจะขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 6 ซึ่งได้แรงหนุนจากการส่งออกสินค้าและบริการที่แข็งแกร่ง และการลงทุนที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ภายใต้ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน สำหรับโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ เช่น ท่าเรือและถนน เพื่อเอื้อต่อการเชื่อมต่อการขนส่งในภูมิภาค รวมถึงการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้มีความสามารถมากยิ่งขึ้น ควบคู่ไปกับการเพิ่มเสถียรภาพทางการเงินภายในประเทศ และการส่งเสริมการส่งออกที่หลากหลายในการเสริมความยืดหยุ่นและความสามารถในการแข่งขันของระบบเศรษฐกิจกัมพูชา

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501293706/world-bank-says-cambodia-needs-to-diversify-its-tourism-products-and-improve-its-trade-competitiveness/

EU หนุนกัมพูชา ส่งเสริมด้านการค้าระหว่างประเทศ

สหภาพยุโรป (EU) พร้อมให้การสนับสนุนกัมพูชาทางด้านเทคนิค ในการริเริ่มโครงการ “ARISE Plus Cambodia” ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อช่วยเหลือภาคธุรกิจของกัมพูชาในการปฏิบัติและดำเนินการตามมาตรฐานสากล เพื่อเป็นการสนับสนุนการส่งออกไปยังสหภาพยุโรป และตลาดอื่นๆ ในภูมิภาค โดยองค์ประกอบหลักสามประการของโครงการ ARISE Plus Cambodia ได้แก่ นโยบายการค้า การอำนวยความสะดวกทางการค้า และการเพิ่มขีดความสามารถของภาคเอกชน ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างคณะผู้แทนสหภาพยุโรปและรัฐมนตรีต่างประเทศของกัมพูชา Sok Sopheak โดยโครงการดังกล่าวสอดคล้องกับกรอบการดำเนินการตามยุทธศาสตร์การบูรณาการการค้าของกัมพูชา (CITS 2019-2023) ซึ่งจะเน้นการสนับสนุนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในประเทศให้เข้ากับห่วงโซ่คุณค่าในระดับภูมิภาคและระดับโลกเป็นสำคัญ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501293704/eu-backed-project-to-boost-cambodias-trade/

GDT กัมพูชา ช่วยให้ผู้เสียภาษีสามารถจ่ายภาษีประจำปีทางออนไลน์ได้

กรมภาษีอากร (GDT) หน่วยงานภายใต้กระทรวงเศรษฐกิจและการคลัง (MEF) ได้ออกคำแนะนำเกี่ยวกับขั้นตอนเพื่อให้ผู้เสียภาษีซึ่งเป็นเจ้าของธุรกิจที่จดทะเบียนในระบบ สามารถยื่นภาษีประจำปีผ่านช่องทางออนไลน์ (ToI E-Filing) โดยคำสั่งของ GDT ได้ถูกเผยแพร่เมื่อวันที่ 15 พ.ค. 2566 เพื่อช่วยให้ผู้เสียภาษีเกิดความสะดวกในการชำระภาษี ลดความสับสนและซับซ้อน รวมถึงลดความผิดพลาดในขั้นตอนของการยื่นภาษี สำหรับการยื่นแบบแสดงรายได้และชำระภาษีเงินได้ ทั้งในรูปแบบรายเดือนและรายปีผ่านระบบออนไลน์เต็มรูปแบบ สำหรับผู้เสียภาษีทุกประเภท ได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนมกราคม 2023 เป็นต้นไป หลังจากที่ GDT ได้ยุติระบบการยื่นเอกสารรูปแบบเดิม โดยได้ริเริ่มระบบใหม่ที่เรียกว่า E-Administration ที่ช่วยให้ผู้เสียภาษีสามารถยื่นเอกสารทุกประเภท รวมถึงชำระภาษีส่งไปยัง GDT ผ่านระบบ E-Filing, ToI E-Filing และ Tax Prefiling

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501290817/gdt-allows-taxpayers-to-adjust-annual-tax-online/

4 เดือนแรกของปี 2023 กัมพูชานำเข้า น้ำมัน-ก๊าซ แตะ 1.15 พันล้านดอลลาร์

การนำเข้าน้ำมันและก๊าซของกัมพูชาในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2023 อยู่ที่มูลค่า 1.15 พันล้านดอลลาร์ ลดลงเล็กน้อยร้อยละ 0.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2022 ตามรายงานของกรมศุลกากรและสรรพสามิตกัมพูชา ปัจจุบันกัมพูชานำเข้าน้ำมันและก๊าซทั้งหมด ซึ่งยังไม่มีการผลิตและจำหน่ายภายในประเทศ เนื่องจากน้ำมันและก๊าซสำรองนอกชายฝั่งยังอยู่ในขั้นของการพัฒนา  นับตั้งแต่วิกฤตรัสเซีย-ยูเครนเริ่มต้นขึ้นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2022 ส่งผลให้ราคาน้ำมันในกัมพูชาพุ่งสูงขึ้น ทำให้เกิดแรงกระเพื่อมต่อราคาสินค้าและบริการอื่นๆ เป็นวงกว้าง ด้านนาย Penn Sovicheat โฆษกกระทรวงพาณิชย์ ระบุก่อนหน้านี้ แม้ความต้องการจะเพิ่มขึ้น แต่กัมพูชามีน้ำมันคงคลังเพียงพอต่อการบริโภคภายในท้องถิ่นอยู่ที่ 15 ถึง 20 วัน โดยไม่ต้องนำเข้า  ส่วนความต้องการผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมของกัมพูชาคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 2.8 ล้านตัน ในปี 2020 เป็น 4.8 ล้านตัน ในปี 2030

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501290819/oil-and-gas-imports-reach-1-15b-in-four-months/

กัมพูชาได้รับการอนุมัติในการส่งออกพริกไทยไปยังจีน

สำนักงานศุลกากรจีน (GACC) อนุมัติข้อเสนอการส่งออกพริกไทยของกัมพูชาไปยังจีน โดยได้อนุมัติโรงงานผลิตพริกไทยในกัมพูชา 7 แห่ง รวมถึงฟาร์มพริกไทยที่ได้จดทะเบียนในการเพาะปลูก 28 แห่ง สำหรับการส่งออกพริกไทยไปยังจีน ซึ่งเกษตรกรผู้ปลูกพริกไทยในประเทศคาดว่าจะได้รับประโยชน์จากการอนุมัติในครั้งนี้ โดยจะช่วยเพิ่มการผลิตและการกระจายตลาดไปยังต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งพริกไทยถือเป็นหนึ่งในพืชเศรษฐกิจที่กำลังมาแรง เนื่องจากเป็นเครื่องเทศชนิดแรกของกัมพูชาที่ได้รับการอนุมัติให้ส่งออกโดยตรงไปยังจีนในปีนี้ อย่างไรก็ตาม สถานเอกอัครราชทูตฯ ไม่ได้ระบุว่าการส่งออกสินค้าครั้งแรกจากกัมพูชาจะเกิดขึ้นเมื่อใด โดยตั้งแต่ต้นปี 2022 กัมพูชามีพื้นที่เพาะปลูกประมาณ 6,000 เฮกตาร์ ซึ่งมีผลผลิตเฉลี่ยปีละ 20,000 ถึง 30,000 ตัน ขณะที่รายงานระบุว่ากัมพูชาส่งออกพริกไทยไปยังต่างประเทศจำนวนกว่า 822,654 ตัน ในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ ด้านสมาพันธ์พริกไทยและเครื่องเทศกัมพูชา กล่าวว่า ราคาพริกไทยในปัจจุบันอยู่ระหว่าง 3,000-3,500 ดอลลาร์ต่อตัน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501290261/cambodian-pepper-gets-china-approval-for-direct-exports/

Q1 กัมพูชา ส่งออกสินค้าไปยังกลุ่ม RCEP ขยายตัวร้อยละ 16

ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ กัมพูชาส่งออกสินค้ามูลค่ารวม 2.89 พันล้านดอลลาร์ ไปยังประเทศกลุ่มความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ขยายตัวร้อยละ 16 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์กัมพูชา ซึ่งประเทศส่งออกสามอันดับแรกของกัมพูชาในกลุ่ม RCEP ได้แก่ เวียดนาม ที่มูลค่า 1.25 พันล้านดอลลาร์, ไทย มูลค่า 958 ล้านดอลลาร์ และจีน มูลค่า 328 ล้านดอลลาร์ ตามลำดับ ขณะที่การนำเข้าสินค้าของกัมพูชาส่วนใหญ่นำเข้าจากจีนที่มูลค่ารวม 2.53 พันล้านดอลลาร์ รวมถึงไทยที่มูลค่า 957 ล้านดอลลาร์ และ เวียดนามที่มูลค่า 440 ล้านดอลลาร์ โดยข้อตกลง RCEP เริ่มมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2022 ร่วมกับ 15 ประเทศในเอเชียแปซิฟิก รวมถึง 10 ประเทศสมาชิกของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน)  ซึ่งในปี 2022 กัมพูชาส่งออกไปยังกลุ่มประเทศ RCEP มีมูลค่าสูงถึง 6.34 พันล้านดอลลาร์ คิดเป็นการเพิ่มขึ้นร้อยละ 7 เมื่อเทียบเป็นรายปี

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501290262/cambodia-q1-exports-to-rcep-countries-up-16/

รมว.เกษตรฯ กัมพูชา ชักชวนประเทศเช็ก นำเข้าสินค้าเกษตรเพิ่ม

เพื่อกระตุ้นความสัมพันธ์ที่อันดี Dith Tina รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร ได้เชิญชวนสาธารณรัฐเช็ก พิจารณาผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำของกัมพูชาและผลิตภัณฑ์กลุ่มอาหารที่มีศักยภาพอื่นๆ โดยกระทรวงหวังว่าจะดึงดูดผู้นำเข้าจากเช็กมากขึ้น ตามถ้อยแถลงของกระทรวงฯ Dith Tina ได้ตั้งข้อสังเกตว่าความร่วมมือในระดับทวิภาคีระหว่างทั้งสองประเทศมุ่งเน้นไปที่การค้าสินค้าเกษตรเป็นหลัก ซึ่งรัฐมนตรีหวังให้สาธารณรัฐเช็กเร่งศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องกับสินค้าเกษตรของกัมพูชาเพิ่มเติม ด้านกระทรวงพาณิชย์กัมพูชา รายงานว่า สาธารณรัฐเช็กถือเป็นตลาดที่สำคัญสำหรับกัมพูชา โดยมีมูลค่าการค้าทวิภาคีระหว่างทั้งสองประเทศเฉลี่ยรวมในช่วงปี 2020-2021 ที่มูลค่า 80 ล้านดอลลาร์ต่อปี

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501289971/minister-of-agriculture-invites-czech-republic-to-import-more/