‘เวียดนาม’ ใช้มาตรการตอบโต้ทุ่มตลาดเหล็กแผ่นนำเข้าจากจีน

กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเวียดนาม (MoIT) ประกาศใช้มาตรการชั่วคราวตอบโต้การทุ่มตลาดสินค้าเหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วน (HRC) ที่นำเข้าจากจีน ด้วยอัตราภาษีตั้งแต่ 19.38% – 27.83% ในขณะที่การนำเข้าเหล็กแผ่นรีดร้อน HRC จากอินเดีย ได้รบการยกเว้นภาษี เนื่องมาจากมีส่วนแบ่งทางการตลาดไม่มากนัก ทั้งนี้ เหล็กของจีนอยู่ในช่วงกระบวนการสอบสวนและอยู่ภายใต้อากรตอบโต้การทุ่มตลาดใหม่ มีผลบังคับใช้ 15 วัน หลังจากประกาศใช้ และคงอยู่เป็นระยะเวลา 120 วัน

นอกจากนี้ กรมศุลกากรเวียดนาม ระบุว่าการนำเข้าเหล็กกล้ารีดร้อนในปี 2567 มีปริมาณ 12.6 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 33% เมื่อเทียบเป็นรายปี แต่สิ่งที่น่าสังเกต คือ ถึงแม้ว่ากระทรวงฯ ทำการสอบสวนในเดือน ก.ค. 2567 แต่การนำเข้าเหล็กกล้าจากจีนยังคงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการหยุดชะงักที่อาจเกิดขึ้นกับตลาดในประเทศได้ กระทรวงฯ จึงตัดสินใจบังคับใช้มาตรการต่อต้านการทุ่มตลาดชั่วคราวเพื่อควบคุมการนำเข้า และปกป้องอุตสาหกรรมเหล็กกล้าในประเทศ

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-imposes-temporary-anti-dumping-duties-on-chinas-hrc-steel-post310423.vnp

‘ผู้ผลิตยานยนต์เวียดนาม’ มุ่งขยายการส่งออก

จากข้อมูลของตัวแทนบริษัท Thaco Group ระบุว่าทางบริษัทประสบความสำเร็จในการส่งออกอย่างมาก รวมถึงรถบรรทุก Kia Frontier K2500 จำนวน 120 คัน ไปยังตลาดตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นตลาดที่ขึ้นชื่อในเรื่องมาตรฐานคุณภาพที่เข้มงวด นอกจากนี้ ยังได้จัดส่ง Kia New Carnival จำนวน 400 คันไปยังอินเดีย และรถจักรยานยนต์ Peugeot Django 150cc จำนวน 45 คันถูกส่งไปยังกัมพูชา ในขณะที่บริษัท VinFast ยังคงเดินหน้าขยายการดำเนินธุรกิจ โดยมีแผนที่จะเปิดตัวรถยนต์รุ่น VF3 แบบพวงมาลัยขวาในอินโดนีเซียและตลาดอื่นๆ ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญ มองว่าการส่งออกรถยนต์ไม่เพียงแต่เป็นผลประโยชน์ต่อธุรกิจเท่านั้น แต่ยังมีส่วนในการส่งเสริมเศรษฐกิจและภาคอุตสาหกรรมอย่างมาก ซึ่งจะช่วยในการพัฒนาคุณภาพรถยนต์ในประเทศ และปรับต้นทุนการผลิตให้อยู่ในระดับเหมาะสม

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/vietnam-auto-manufacturers-look-to-boost-exports-2373829.html

‘เซมิคอนดักเตอร์’ หนุนอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ของเวียดนาม

สำนักงานการลงทุนต่างประเทศ กระทรวงวางแผนและการลงทุน เปิดเผยว่าการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในเวียดนาม ปี 2567 มีมูลค่า 38.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเม็ดเงินลงทุนส่วนใหญ่อยู่ในโครงการขนาดใหญ่ ได้แก่ เซมิคอนดักเตอร์ พลังงาน และการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น ในขณะเดียวกัน นายโทมัส รูนีย์ (Thomas Rooney) รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารอุตสาหกรรมของบริษัท Savills Hanoi กล่าวว่าเวียดนามกำลังก้าวขึ้นมาเป็นจุดหมายปลางทางเชิงกลยุทธ์ของบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ เนื่องจากเวียดนามมีข้อได้เปรียบทำเลที่ตั้งในห่วงโซ่อุปทานโลก รวมถึงการลงทุนในโครงการเทคโนโลยีขั้นสูง และจัดตั้งศูนย์วิจัย ผลักดันโครงสร้างพื้นฐานและโรงงานต่างๆ ได้มากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ เวียดนามยังมีแรงงานจำนวนมาก นนโยบายที่สนับสนุนโครงการเทคโนโลยีขั้นสูง และการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้เวียดนามเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าดึงดูดของนักลงทุนต่างชาติ และผลักดันให้เวียดนามเป็นศูนย์กลางการผลิตเทคโนโลยีขั้นสูงอีกด้วย

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/hi-tech-semiconductor-sectors-promote-vn-s-industrial-property-development-2372091.html

‘เวียดนาม’ ตั้งเป้าปี 68 ยอดส่งออกยางพารา แตะ 11 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

สมาคมยางเวียดนาม (VRA) คาดการณ์ว่าการส่งออกยางพาราของเวียดนาม อยู่ที่ราว 11 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2568 อัตราการเติบโต 10% ต่อปี โดยราคายางพาราในตลาดโลกพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งช่วยให้ผู้ประกอบการยางพารามีรายได้และกำไรเติบโตไปในทิศทางเป็นบวก

ทั้งนี้ เวียดนามส่งออกยางพาราในเดือนมกราคม อยู่ที่ประมาณ 180,000 ตัน ลดลง 14.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) มูลค่า 341 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 14.6%YoY ในขณะที่ราคาส่งออกเฉลี่ยอยู่ที่ราว 1,892 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน เพิ่มขึ้น 34%YoY

นอกจากนี้ ตามข้อมูลของกรมศุลกากรเวียดนาม ระบุว่าในปี 2567 เวียดนามส่งออกยางพาราประมาณ 2 ล้านตัน มูลค่า 3.42 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แซงหน้าตัวเลขทางสถิติที่ทำไว้ในปี 2565 ที่อยู่ระดับ 3.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/vietnam-s-rubber-export-expected-to-hit-11-billion-usd-in-2025-2372936.html

‘เวียดนาม’ ส่งออกทุเรียน ดิ่งลง 80%

กระทรวงเกษตรและการพัฒนาชนบทของเวียดนาม (MARD) เปิดเผยว่าการส่งออกทุเรียนของเวียดนามไปยังตลาดจีน ลดลง 80% ในช่วงครึ่งแรกของเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ด้วยปริมาณการส่งออกเพียง 3,500 ตัน ส่งผลกระทบต่อยอดการส่งออกผักและผลไม้รวมของเวียดนาม โดยสาเหตุสำคัญที่ทำให้การส่งออกลดลง เนื่องมาจากมาตรการที่เข้มงวดในการตรวจสอบสารปนเปื้อน “Basic Yellow 2” ของทุเรียนที่มีการนำเข้า ซึ่งความเข้มงวดในการตรวจสอบดังกล่าว สำหรับการขนส่งทุเรียน จำเป็นที่จะต้องได้การรับรองจากการทดสอบในห้องปฏิบัติการ ทำให้ขั้นตอนการส่งออกมีความล่าช้าอย่างมาก และเกิดความแออัดที่ประตูชายแดน ผู้ค้าบางรายหันไปส่งออกในตลาดมืด แต่แนวทางนี้ไม่ยั่งยืน สำหรับอุตสาหกรรมทุเรียนของเวียดนาม

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/vietnam-s-durian-exports-to-china-plummet-by-80-2373158.html

‘อุตสาหกรรมชิปเวียดนาม’ มั่นใจได้รับประโยชน์จากนโยบายทรัมป์

สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่ารัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังพิจารณาเกี่ยวกับการจำกัดการส่งออกชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) ไปยังจีน ในขณะที่สำนักข่าวญี่ปุ่น NHK รายงานว่าโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เข้าพบกับเจนเซน หวง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Nvidia ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของสหรัฐฯ เพื่อหารือเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวในช่วงปลายเดือน ม.ค.

ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สหรัฐฯ ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารในการขึ้นภาษีนำเข้าจากเม็กซิโก แคนาดาและจีน ถึงแม้ว่าการเดินหน้าของสหรัฐฯ ในข้างต้น จะส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานโลก แต่ในมุมมองของ นาย Võ Xuân Hoài รองผู้อำนวยการศูนย์นวัตกรรมแห่งชาติ กล่าวว่าการเคลื่อนไหวของสหรัฐฯ จะไม่ส่งผลกระทบต่อความร่วมมือด้านเทคโนโลยีระหว่างเวียดนามและสหรัฐฯ โดยสหรัฐฯ มีความต้องการผลิตชิปเทคโนโลยีขั้นสูงในประเทศมากขึ้น แต่ยังคงจ้างพันธมิตรภายนอก เพื่อผลิตชิปประเภทอื่นๆ รวมถึงเวียดนามด้วย ในขณะเดียวกัน ความตึงเครียดทางการค้า ส่งผลให้เกิดการย้ายฐานการผลิตออกจากจีนไปยังประเทศอื่นๆ รวมถึงเวียดนาม ซึ่งถือเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าดึงดูดสำหรับนักลงทุนต่างชาติ

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1692355/viet-nam-s-chip-production-to-benefit-from-trump-s-policies.html

‘เวียดนาม’ ผลักดันโครงสร้างพื้นฐานท่าเรือ หนุนยกระดับขีดความสามารถการแข่งขัน

สำนักงานบริหารเดินเรือเวียดนาม เปิดเผยว่าภาคการเดินเรือของประเทศ มีทิศทางการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในปี 2567 ด้วยปริมาณขนส่งสินค้าผ่านท่าเรือ 864.4 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 14% ในขณะที่ปริมาณขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ยังคงเติบโตได้ดี อยู่ที่ 29.9 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 21% รวมถึงจำนวนเรือที่ผ่านท่าเรือ 102,670 คัน เพิ่มขึ้น 2% โดยตัวเลขเหล่านี้ สะท้อนให้เห็นถึงอุตสาหกรรมการเดินเรือของประเทศที่ฟื้นตัว

ทั้งนี้ นาย Nguyen Canh Tinh ผู้อำนวยการ VIETNAM Maritime (VIMC) ได้ตั้งข้อสังเกตว่าการเพิ่มขึ้นของขนาดเรือและปริมาณขนส่งสินค้า ส่งผลให้โครงสร้างพื้นฐานทางทะเลไม่สามารถรองรับได้ จึงจำเป็นที่จะต้องปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะประเด็นเร่งด่วน คือ การขุดลอกร่องน้ำทางเดินเรือ เพื่อรองรับเรือขนาดใหญ่ อย่างไรก็ดี สำนักงานบริหารการเดินเรือ มีปัญหาการขาดแคลนเงินทุนในการพัฒนาโครงการดังกล่าว โดยหวังว่านายกรัฐมนตรีจะอนุมัติโครงการนี้

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnams-seaports-need-investment-to-enhance-competitiveness-post310023.vnp

‘เวียดนาม’ ชี้ยังมีโอกาสส่งออกเหล็ก-อลูมิเนียม ไปสหรัฐฯ แม้เผชิญภาษีนำเข้า

คุณ Đỗ Ngọc Hưng ที่ปรึกษาทางการค้า และผู้อำนวยการสำนักงานการค้าเวียดนาม ประจำสหรัฐฯ กล่าวว่าถึงแม้สหรัฐฯ ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียม 25% แต่การส่งออกเหล็กและอลูมิเนียมของเวียดนามยังคงมีศักยภาพในการเติบโตเชิงบวกและมีความพร้อมในการปรับตัวต่อสถานการณ์ต่างๆ รวมถึงสหรัฐฯ ยังไม่สามารถตอบสนองกับความต้องการเหล็กในประเทศได้อย่างเต็มที่ จึงมีโอกาสที่จะให้เวียดนามส่งออกเหล็กและอลูมิเนียมไปยังตลาดได้ ในขณะเดียวกัน คุณภาพและราคาเหล็กและอลูมิเนียมของเวียดนาม ได้รับการยอมรับ

นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญและผู้ประกอบการ มองว่าการขึ้นภาษีศุลกากรดังกล่าว มีผลกระทบน้อยมาก และจากข้อมูลของสมาคมเหล็กเวียดนาม (VSA) ระบุว่าเวียดนามส่งออกเหล็กและเหล็กกล้าในปี 2567 ประมาณ 12.6 ล้านคน ทำรายได้ราว 9.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยสหรัฐฯ เป็นตลาดส่งออกรายใหญ่อันดับ 3 ของเวียดนาม คิดเป็นส่วนแบ่งการตลาด 13% รองจากอาเซียน 26% และสหภาพยุโรป 23%

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1692289/viet-nam-still-has-a-chance-to-export-steel-and-aluminium-to-us-despite-tariffs.html

‘เวียดนาม-สปป.ลาว’ จับมือส่งเสริมธุรกิจ กระตุ้นการลงทุน

นายสอนไซ สีพันดอน นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมในกรุงเวียงจันทร์ เมื่อวันที่ 14 ก.พ. โดยมีนักธุรกิจชาวเวียดนามและต่างชาติจากประเทศต่างๆ รวมถึงนายเหงียน ฮ่อง ฮิว (Nguyen Hong Hue) ประธานของสมาคมธุรกิจเวียดนามในต่างประเทศ (BAOOV) และนายเหงียน ดึ๊ก ทัม เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำสปป.ลาว เข้าร่วมในครั้งนี้ โดยการประชุมครั้งนี้ นายเหงียน ฮ่อง ฮิว ได้กล่าวสรุปกิจกรรมของสมาคมและแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกจากการสัมมนาที่เกี่ยวกับการลงทุน โอกาสทางธุรกิจในสปป.ลาว ในขณะเดียวกัน หวังว่าการร่วมมือในครั้งนี้ รัฐบาลสปป.ลาว จะช่วยอำนวยความสะดวกในการลงทุน โดยเฉพาะภาคส่วนสำคัญต่างๆ เช่น พลังงาน การขุดเหมืองแร่ การศึกษา การให้บริการดูแลสุขภาพ และการเกษตรไฮเทค เป็นต้น

ทั้งนี้ นายสอนไซ สีพันดอน กล่าวถึงการประชุมครั้งนี้ว่าสปป.ลาว ให้ความสำคัญกับการเปิดโอกาสทางธุรกิจและการลงทุน ขณะเดียวกัน สปป.ลาว ยังคงเป็นจุดหมายปลายทางการลงทุนที่น่าดึงดูดสำหรับธุรกิจเวียดนามและธุรกิจต่างชาติ แม้ว่าสปป.ลาว จะเป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล แต่ก็เป็นศูนย์กลางการขนส่งสำคัญที่เชื่อมโยงเวียดนาม ไทย และประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/vietnam-enhances-business-connection-for-investment-in-laos-post1154960.vov

‘เวียดนาม’ ตั้งเป้าปี 68 รับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 23 ล้านคน หวังกระตุ้นการท่องเที่ยว

เวียดนามตั้งเป้าปี 2568 ต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศ 22-23 ล้านคน ถึงแม้ว่าตัวเลขของจำนวนนักท่องเที่ยวที่ตั้งไว้อยู่ในระดับสูงมาก แต่เป้าหมายนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเวียดนามที่จะผลักดันภาคการท่องเที่ยวให้เป็นเสาหลักเศรษฐกิจของประเทศ โดยปัจจุบันเวียดนามอยู่อันดับ 3 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในแง่ของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ แซงหน้าสิงคโปร์ที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 16.5 ล้านคน และตามหลังไทยและมาเลเซีย 35 ล้านคน และ 24.5 ล้านคน อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญ มองว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในปีนี้ยังคงเผชิญกับความท้าทายหลากประการ ได้แก่ ภัยธรรมชาติต่างๆ และน้ำท่วม ซึ่งเป็นการขัดขวางการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวเวียดนาม

ที่มา : https://vietnamnews.vn/society/1692153/viet-nam-looks-to-welcome-23-million-foreign-visitors-this-year-in-tourism-push.html