‘เวียดนาม’ เผยเงินเฟ้อ CPI ช่วง 5 เดือนแรกปี 67 เพิ่มขึ้น 1.24%

สำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) เปิดเผยว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน พ.ค.67 ปรับตัวขึ้น 0.05% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน และเพิ่มขึ้น 1.24% เมื่อเทียบกับเดือน ธ.ค.66 และเพิ่มขึ้น 4.44% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) โดยเป็นผลมาจากการขาดแคลนเนื้อหมูที่เผชิญกับการแพร่ระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) ในช่วงปลายปี 2566 รวมถึงค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้นจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดในช่วงที่ผ่านมา ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในเดือน พ.ค.67 เพิ่มขึ้น 2.68% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และเมื่อพิจารณาอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ พบว่าเพิ่มขึ้น 2.78% เมื่อเทียบเป็นรายปี

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1656490/cpi-rises-by-1-24-in-the-first-five-months.html

‘เวียดนาม’ มุ่งส่งเสริมการส่งออกข้าว

กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า (MoIT) ระบุว่าความมั่งคงทางอาหารถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ส่งออกข้าว ควบคู่กับการส่งเสริมการผลิตข้าวยั่งยืนและการใช้ประโยชน์จากข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) รวมถึงดำเนินการส่งเสริมตราสินค้าเวียดนามให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของข้าวเวียดนาม ในขณะเดียวกัน กระทรวงฯ ขอความร่วมมือกับสมาคมอาหารเวียดนาม (VFA) และผู้ส่งออกข้าวให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบการส่งออก ติดตามข้อมูลตลาดข้าวและช่วยเหลือผู้ประกอบการที่เผชิญกับปัญหาต่างๆ

นอกจากนี้ นาย เล แทงห์ ฮวา (Le Thanh Hoa) รองผู้อำนวยการฝ่ายคุณภาพ การแปรรูปและการพัฒนาตลาด กล่าวว่าจากปรากฏการณ์เอลนีโญและผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิกาศ ส่งผลให้ผลผลิตข้าวทั่วโลกในปี 2566-2567 ลดลงเหลือ 518 ล้านตัน ในขณะที่ความต้องการในการบริโภคอยู่ที่ 525 ล้านตัน แสดงให้เห็นว่าโลกจะเผชิญกับปัญหาขาดแคลนธัญพืชประมาณ 7 ล้านตันในปีนี้ ซึ่งจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ นับเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ส่งออกข้าวเวียดนาม

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1656338/fdi-reaches-us-11-07-billion-in-first-five-months-of-2024.html

‘เวียดนาม’ ส่งออก พ.ค.67 โต 15.8% ขณะที่ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ขยายตัว 8.9%

สำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) เปิดเผยว่าการส่งออกของเวียดนามในเดือน พ.ค.67 มีมูลค่าอยู่ที่ 32.81 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 15.8% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยได้รับอนิสงค์มาจากการส่งออกโทรศัพท์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ในขณะที่การนำเข้า มีมูลค่าอยู่ที่ 33.81 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 29.9% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ส่งผลให้เวียดนามขาดดุลการค้าราว 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ

อีกทั้ง ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือน พ.ค.67 เพิ่มขึ้น 8.9% ต่อปี รวมถึงดัชนีราคาผู้บริโภคและยอดค้าปลีก เพิ่มขึ้น 4.44% และเพิ่มขึ้น 9.5% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

ที่มา : https://www.marketscreener.com/news/latest/Vietnam-May-exports-up-15-8-y-y-industrial-production-up-8-9-46846255/

‘เวียดนาม’ เผย 5 เดือนแรกปี 67 ธุรกิจที่กลับมาดำเนินกิจการ 98,800 ราย

กระทรวงการวางแผนและการลงทุน (MPI) เปิดเผยว่าในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ ธุรกิจที่กลับมาดำเนินกิจการ มีจำนวนทั้งสิ้น 98,852 ราย เพิ่มขึ้น 4.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว (YoY) ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยในช่วงปี 2562-2566 ในขณะที่ตัวเลขที่จดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ มีจำนวน 64,758 ราย และมีมูลค่าทุนจดทะเบียน 601.22 ล้านล้านด่อง หรือประมาณ 23.62 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 5.7%YoY

ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาข้อมูลในเดือน พ.ค.67 พบว่าการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ มีจำนวน 13,207 ราย และธุรกิจที่กลับมาดำเนินกิจการ 6,749 ราย ในขณะเดียวกัน ธุรกิจที่เลิกประกอบกิจการ 11,391 ราย

นอกจากนี้ ตัวเลขการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจขนาดเล็กที่มีทุนจดทะเบียนต่ำกว่า 1 หมื่นล้านด่อง หรือคิดเป็นสัดส่วน 92.2% ของจำนวนธุรกิจทั้งหมด

ที่มา : https://en.nhandan.vn/over-98800-enterprises-join-re-enter-market-in-five-months-post135919.html

‘เวียดนาม’ เผยดึง FDI ช่วง 5 เดือนแรกปี 67 ทะลุ 11.07 พันล้านเหรียญสหรัฐ

สำนักงานการลงทุนต่างประเทศ กระทรวงการวางแผนและการลงทุน (MPI) เปิดเผยว่าในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในเวียดนาม ช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้น 2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ในขณะที่จากข้อมูล ณ วันที่ 30 พ.ค. พบว่าเวียดนามมีโครงการลงทุน 40,285 โครงการ และมีมูลค่าทุนจดทะเบียน 481.33 พันล้านเหรียญสหรัฐ

ทั้งนี้ ภาคการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ เกินดุลการค้า 19.57 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะที่ภาคในประเทศ ขาดดุลการค้า 11.05 พันล้านเหรียญสหรัฐ

นอกจากนี้ สาขาการผลิตและแปรรูปยังคงได้รับเงินลงทุนจากต่างประเทศมากที่สุด มีมูลค่าเกินกว่า 7.43 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นสัดส่วน 67.1% ของจำนวนเงินทั้งหมด เพิ่มขึ้น 11.9% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว รองลงมาสาขาอสังหาริมทรัพย์ มีมูลค่าราว 1.98 พันล้านเหรียญสหรัฐ และสาขาการค้าส่งค้าปลีก การขนส่งและการจัดเก็บสินค้า มีมูลค่ากว่า 856.4 ล้านเหรียญสหรัฐ

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1656338/fdi-reaches-us-11-07-billion-in-first-five-months-of-2024.html

‘เวียดนาม’ ส่งออกปลาสวาย มีแนวโน้มฟื้นตัว

จากข้อมูลทางสถิติของกรมศุลกากรเวียดนาม แสดงให้เห็นว่าเวียดนามทำรายได้จากการส่งออกปลาสวาย (Tra fish) ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ อยู่ที่ราว 725 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 2% เมื่อเทียบเป็นรายปี ในขณะที่จากข้อมูลของสมาคมผู้ส่งออกและผู้ผลิตอาหารทะเลของเวียดนาม (VASEP) ระบุว่าสหรัฐฯ ยังคงเป็นผู้นำเข้าปลาสวายจากเวียดนามรายใหญ่ที่สุด รองลงมาจีน สหภาพยุโรปและอเมริกาใต้ โดยเฉพาะสินค้าส่งออกปลาแช่แข็งของเวียดนามที่ส่งออกไปยังตลาดสหรัฐฯ ทำรายได้มากกว่า 10 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 19% เมื่อเทียบเป็นรายปี หรือคิดเป็นสัดส่วน 98% ของสินค้าส่งออกปลาสวายทั้งหมด

อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญ มองว่าแนวโน้มการส่งออกปลาสวายไปยังตลาดยุโรปจะปรับตัวลดลง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการถดถอยของภาวะเศรษฐกิจโลกและความตึงเครียดของสถานการณ์โลกในปัจจุบัน ทำให้เวียดนามต้องใช้ประโยชน์จากข้อตกลงการค้าเสรียุโรป-เวียดนาม (EVFTA) เพื่อที่จะเข้าถึงตลาดได้มากขึ้น

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnams-tra-fish-export-tipped-to-bounce-back-post287558.vnp

‘ไมโครซอฟท์’ เผยผลสำรวจชี้ว่าเวียดนามใช้ AI ในการทำงานสูงกว่าค่าเฉลี่ยของโลก

จากรายงานของไมโครซอฟท์ (Microsoft) เปิดเผยผลการสำรวจแรงงาน 31,000 คน จาก 31 ประเทศทั่วโลก รวมถึงเวียดนาม พบว่าอัตราการใช้งานปัญญาประดิษฐ์เชิงรู้สร้าง (Generative AI) เข้ามาช่วยในการทำงานเพิ่มขึ้น 2 เท่าในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ด้วยเครื่องมือยอดนิยม ได้แก่  ChatGPT, Copilot และ GitHub Copilot เป็นต้น

โดยเฉลี่ยกลุ่มตัวอย่าง 3 ใน 4 หรือคิดเป็น 75% มีการใช้ AI โดยเฉพาะเวียดนามที่แสดงให้เห็นว่ากลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ 88% ใช้ AI ในการทำงาน และมีอัตราสูงกว่าค่าเฉลี่ยของโลก

ทั้งนี้ นาง Nguyen Quynh Tram ผู้อำนวยการทั่วไปของ Microsoft Vietnam กล่าวว่าในปัจจุบัน AI ไม่เพียงแต่ใช้งานทั่วไปแล้ว เช่น การแปลเอกสาร การสรุปผลหรือการร่างอีเมล์ แต่ยังมีการใช้งานในการสร้างสรรค์อีกด้วย อย่างไรก็ตาม การกระตุ้นให้คนหันมาใช้ AI จากระดับลูกจ้างนั้น เป็นไปได้ยาก

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/rate-of-using-ai-to-work-in-vietnam-is-higher-than-worlds-average-microsoft-post1097732.vov

‘วีซ่า’ จับมือเป็นพาร์ทเนอร์อีวอลเล็ท ดันตลาดเวียดนาม

นาง Dang Tuyet Dung ผู้จัดการวีซ่าประเทศเวียดนามและสปป.ลาว กล่าวว่าวีซ่า (Visa) ผู้ให้บริการชำระเงินดิจิทัลระดับโลก มีความยินดีที่จะเป็นพันธมิตรกับกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ชั้นนำในเวียดนาม ได้แก่ MoMo, VNPAY และ ZaloPay เพื่อมอบประสบการณ์การชำระเงินให้เป็นเรื่องสะดวก ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ให้กับผู้ถือบัตรวีซ่าที่เป็นวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) รวมถึงประชาชน โดยความร่วมมือในครั้งนี้จะขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงของเวียดนามไปสู่สังคมไร้เงินสด โดยเฉพาะกลุ่ม SMEs ที่สามารถเสนอโซลูชั่นให้กับผู้บริโภค

นอกจากนี้ จากการศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภคในเรื่องการชำระเงิน พบว่าในปี 2566 กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ 88% ใช้การชำระเงินดิจิทัล ในขณะที่ 62% ใช้สแกน QR Code ชำระเงิน เพิ่มขึ้น 35% จากปี 2565

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1656257/visa-partners-with-e-wallets-in-viet-nam.html

‘เวียดนาม’ เผยการผลิตภาคอุตสาหกรรม สัญญาณฟื้นตัว

กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า ทำการประเมินสถานการณ์ของภาคอุตสาหกรรมพบว่าดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรม ม.ค.-เม.ย. เพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยเฉพาะสาขาการผลิตและแปรรูปที่เพิ่มสูงขึ้นกว่า 6.3% เนื่องจากมาตรการส่งเสริมของภาครัฐ ตลอดจนการไหลเข้าของเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศ ในขณะที่ตลาดโลกค่อยๆกลับมาฟื้นตัวและปรับตัวจากการหยุดชะงักในปี 2565 และปี 2566 ทำให้ยอดคำสั่งซื้อส่งออกใหม่เพิ่มสูงขึ้น

ทั้งนี้ นาย Dao Phan Long ประธานสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องกลของเวียดนาม กล่าวว่าความพยายามของประเทศพัฒนาแล้วในการกระจายห่วงโซ่อุปทานและการลงทุน ช่วยให้เวียดนามกลายเป็นศูนย์กลางการผลิตและการส่งออกในห่วงโซ่คุณค่าระดับโลก อย่างไรก็ดี จากการคาดการ์เศรษฐกิจโลกในปีนี้ แสดงให้เห็นถึงภาวะเงินเฟ้อสูง และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ในพื้นที่ต่างๆ ส่งผลกระทบในเชิงลบต่อเวียดนาม

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/industrial-production-shows-signs-of-recovery-post287518.vnp

สภาเวียดนามลงมติเลือก “พลเอกโต เลิม” เป็นปธน.คนใหม่

สมาชิกสภาแห่งชาติของเวียดนาม ลงมติเลือกพลเอกโต เลิม วัย 66 ปี เจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านความมั่นคงของเวียดนาม ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่แทนอดีตประธานาธิบดีหว่อ วัง เถือง ผู้ลาออกจากตำแหน่งเมื่อเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา หลังจากอยู่ในตำแหน่งได้เพียง 1 ปี โดยพลเอกโต เลิม มีผลงานโดดเด่นจากการดำรงตำแหน่งผู้นำโครงการปราบปรามการคอร์รัปชันครั้งใหญ่ ซึ่งนำไปสู่การจับกุมเจ้าหน้าที่รัฐบาลและนักธุรกิจเวียดนามหลายพันคนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และการขึ้นสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีของเขาเกิดขึ้นในขณะที่พรรคโปลิตบูโรของเวียดนามสูญเสียสมาชิก 6 คนจากทั้งหมด 18 คน รวมถึงอดีตประธานาธิบดี 2 คนและหัวหน้ารัฐสภาของเวียดนาม ท่ามกลางการรณรงค์ต่อต้านการทุจริตรับสินบนที่ขยายตัวออกไป

ด้านนักวิเคราะห์ชี้ว่า การขึ้นสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีของพลเอกโต เลิม เป็นการปูทางให้เขาก้าวเป็นเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์คนใหม่แทนนายเหงียน ฟู จอง วัย 80 ปี

ที่มา : https://www.thairath.co.th/news/foreign/2787791