World Bank จัดไทยอันดับ 34 ความสามารถโลจิสติกส์โลก พบอันดับต่ำสุดด้านตรงต่อเวลา

สำนักข่าวอิศรา รายงานข่าวเกี่ยวกับการจัดอันดับในต่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทยว่าธนาคารโลกหรือว่า World Bank ได้มีการจัดอันทำดัชนีขีดความสามารถในด้านโลจิสติกส์ใน 139 ประเทศทั่วโลกประจำปี 2566 พบว่าประเทศไทยได้อันดับที่ 34 โดยมีคะแนนทั้งสิ้น 3.5 คะแนน

โดยในส่วนของรายละเอียดคะแนนนั้น พบว่าไทยได้อันดับในส่วนของศุลกากรอยู่ที่อันดับ 31 อันดับด้านโครงสร้างพื้นฐานอยู่ที่ 25 อันดับด้านการขนส่งไปยังต่างประเทศอยู่ที่ 22 อันดับด้านการแข่งขันโลจิสติกส์อยู่ที่ 38 อันดับเกี่ยวกับการติดตามสินค้าอยู่ที่ 34 และอันดับด้านความตรงต่อเวลาอยู่ที่ 46

ทั้งนี้มีประเทศอื่นๆที่มีอันดับ 34 เทียบเท่าประเทศไทยได้แก่ประเทศบาห์เรน ประเทศลัตเวีย และประเทศการ์ตา

ส่วนอันดับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรือว่าอาเซียนนั้น พบว่ามีสิงคโปร์ที่ได้อันดับหนึ่งของโลกได้ 4.3 คะแนน ตามมาด้วยประเทศมาเลเซียได้อันดับที่ 26 ได้ 3.6 คะแนน ประเทศเวียดนามกับประเทศฟิลิปปินส์ได้อันดับที่ 43 ได้ 3.3 คะแนน ประเทศอินโดนีเซียได้อันดับที่ 61 ได้  3 คะแนน ประเทศลาวและกัมพูชาได้อันดับที่ 115 ได้ 2.4 คะแนน

ที่มา : https://www.isranews.org/article/isranews-news/118222-isranews-logisticcccc.html

“เวียดนาม” คาดได้รับผลกระทบจากภาษีคาร์บอนจากตลาดอียู

สำนักงานการค้าเวียดนามในประเทศเนเธอร์แลนด์ เปิดเผยว่าภาษีคาร์บอน (Carbon Tax) ที่สหภาพยุโรปได้กำหนดไว้ มีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อสินค้าอุตสาหกรรมของเวียดนามที่ส่งออกไปยังตลาดสหภาพยุโรป โดยสหภาพยุโรปได้บรรลุข้อตกลงมาตรการปรับราคาคาร์บอนก่อนข้ามพรมแดน (Carbon Border Adjustment Mechanism: CBAM) บังคับใช้ 1 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไป ภายใต้กฎระเบียบใหม่นั้น กลุ่มสินค้าที่จะถูกเก็บภาษีคาร์บอนขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในกระบวนการผลิต ด้วยเหตุนี้ กลไกดังกล่าวจะเริ่มต้นมาจากกลุ่มสินค้าที่มีปริมาณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ (Carbon Footprint) จำนวนมาก ได้แก่ เหล็ก ซีเมนต์ ปุ๋ย อะลูมิเนียมและไฟฟ้า มีสัดส่วนรวมกันราว 94% ของการปล่อยคาร์บอนของทั้งทวีป อย่างไรก็ดี สำนักงานการค้าเวียดนาม ระบุว่าผลิตภัณฑ์เหล็ก อะลูมิเนียม ซีเมนต์และปุ๋ยของเวียดนามที่ส่งออกไปยังสหภาพยุโรปอาจมีการเปลี่ยนแปลง

ที่มา : https://english.vov.vn/en/economy/vietnam-likely-to-be-impacted-by-eu-carbon-tax-post1017645.vov

“สมาคมเหล็กเวียดนาม” เผยเหล็กก่อสร้าง ราคาลดลงต่อเนื่อง

สมาคมเหล็กเวียดนาม (Vietnam Steel Association) เปิดเผยว่าความต้องการเหล็กทั่วโลกได้ปรับลดลงมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในตลาดสหรัฐฯ สหภาพยุโรปและจีน นอกจากนี้ยังไม่เห็นสัญญาว่าอัตราเงินเฟ้อจะถูกควบคุมและอุปสงค์ในประเทศที่ยังไม่ฟื้นตัว ทำให้ผู้ประกอบการต้องหันมาลดราคาสินค้า รวมไปถึงราคาวัตถุดิบที่ลดลงเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ ธุรกิจเหล็กในประเทศปรับลดราคาเหล็กก่อสร้างลงมาอย่างต่อเนื่อง ราว 50 – 450 ดองต่อกิโลกรัม ลงมาอยู่ที่ 14,720 ดอง (0.62 ดอลลาร์สหรัฐ) – 15,660 ดอง (0.66 ดอลลาร์สหรัฐ) ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและประเภทสินค้า นับว่าเป็นการลดราคาเหล็กก่อสร้างเป็นครั้งที่ 4 ในระยะเวลาเพียง 1 เดือน อย่างไรก็ตาม สมาคมฯ คาดการณ์ว่าตลาดเหล็กก่อสร้างจะเผชิญกับอุปสรรคไปจนถึงสิ้นปี

ที่มา : https://en.vneconomy.vn/price-of-construction-steel-continues-downwards.htm

“รมต.ต่างประเทศจีน” เยือนชายแดนเมียนมา

นายฉิน กัง (Qin Gang) รัฐมนตรีต่างประเทศของจีน เรียกร้องให้มีความมั่งคงและการปราบปรามอาชญากรรมบริเวณพรมแดนของประเทศที่ติดกับประเทศเมียนมา โดยพรมแดนเมียนมาที่ติดกับประเทศจีนมีระยะทาง 2,129 กิโลเมตร มีภูเขาที่มีป่าไม้หนาทึบและมีชื่อเสียงในการลักลอบขนยาเสพติดเข้าสู่ประเทศจีน ทั้งนี้ องค์การสหประชาชาติ ระบุว่าการผลิตฝิ่นในเมียนมากลับมาเฟื่องฟูอีกครั้ง หลังจากกองทัพเข้ายึดอำนาจรัฐบาลในปี 2564 การเพาะปลูกฝิ่นป๊อบปี้เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาลงและปัญหาอาชญากรรมที่ไม่เข็มงวด ทำให้ผู้คนหันมาซื้อยาเสพติดกันสูงขึ้น

อีกทั้ง รัฐมนตรีฯ ต่างประเทศของจีน กล่าวระหว่างการเยือนเมียนมาว่าพรรคคอมมิวนิสต์ท้องถิ่น หน่วยงานรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควรเข้าร่วมระบบเสริมสร้างป้องกันชายแดนและจำเป็นต้องมีการประสานงานการจัดการชายแดน เพื่อที่จะพัฒนาการค้าชายแดนและความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ

ที่มา : https://www.taiwannews.com.tw/en/news/4880184

ยอดการค้าระหว่างกัมพูชา-ญี่ปุ่น แตะ 1.948 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ปี 65

สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เป็นประธานพิธีวางศิลาฤกษ์การก่อสร้างท่าเทียบเรือบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์แห่งใหม่ที่ท่าเริอน้ำลึกสีหนุวิลล์ (PAS) และงานครบรอบ 70 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกัมพูชา-ญี่ปุ่น รวมถึงครบรอบ 137 ปี วันแรงงานสากลแห่งชาติ ที่เมืองสีหนุวิลล์ ในขณะเดียวกันได้มีการเปิดเผยข้อมูลตัวเลขการส่งออกของกัมพูชาไปยังตลาดญี่ปุ่น อยู่ที่ 1.173 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา หวังว่าการส่งออกของประเทศไปยังญี่ปุ่นนั้น จะได้รับการส่งเสริมจากนายอุเอโนะ อัตสึชิ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำกัมพูชา เนื่องจากทั้งสองประเทศเป็นสมาชิกความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP)

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501282910/bilateral-trade-between-cambodia-and-japan-worth-1-948-billion-in-2022/

กัมพูชาส่งออก ‘จักรยาน’ ไตรมาสแรกของปี 66 พุ่ง 278 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่ามูลค่าการส่งออกจักรยานไปยังตลาดต่างประเทศในไตรมาสแรกของปี 2566 อยู่ที่ 278 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นราว 20% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว นาย Penn Sovichea ปลัดและโฆษกกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่าจักรยานที่ผลิตในกัมพูชานั้นได้ส่งออกไปยังตลาดสหภาพยุโรป สหราชอาณาจักร (UK) สหรัฐอเมริกา แคนาดา ญี่ปุ่น จีนและประเทศอื่นๆ โดยรถจักรยานเป็นหนึ่งในสินค้าส่งออกสำคัญของประเทศ รองจากเสื้อผ้า รองเท้าและสินค้าสำหรับเดินทางท่องเที่ยว นอกจากนี้ โรงงานผลิตจักรยานในกัมพูชามีจำนวน 5 แห่ง และโรงงานทั้งหมดตั้งอยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษในเมืองบาเวต จังหวัดสวายเรียงทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501283599/cambodia-earns-278-mln-from-bicycle-export-in-q1-up-almost-20-pct/

‘อาเซียน – แคนาดา’ ถกเข้ม เจรจา FTA รอบ 3 เร่งปิดดีล ปี 67

‘อาเซียน-แคนาดา’ ประชุมเจรจาจัดทำ FTA รอบ 3 ผ่านระบบประชุมทางไกล คืบหน้าด้วยดี ทั้งการประชุมคณะกรรมการเจรจาการค้า (TNC) และการประชุมกลุ่มย่อย 17 คณะ เริ่มหารือยกร่างข้อบทความตกลงส่วนใหญ่แล้ว พร้อมหารือประเด็นใหม่ๆ อาทิ แรงงาน สิ่งแวดล้อม และการค้าที่ให้ความสำคัญทุกภาคส่วน ปีนี้เตรียมจัดประชุมอีก 2 รอบ ตั้งเป้าสรุปผลเจรจา ปี 67

ที่มา : http://www.acnews.net/detailnews.php?news_id=N256676811

“เวียดนาม” เผยช่วง 4 เดือนแรกของปี 66 ต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 3.7 ล้านคน

สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งชาติเวียดนาม (VNAT) เปิดเผยว่าเวียดนามต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติราว 3.7 ล้านคน ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2566 และนักท่องเที่ยวในประเทศมีจำนวนรวมทั้งสิ้น 38 ล้านคน ทำรายได้รวมจากนักท่องเที่ยวประมาณ 196.6 ล้านล้านดอง (8.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ทั้งนี้ หากพิจาณาเฉพาะในเดือน เม.ย. 2566 พบว่าเวียดนามต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 984,000 คน นับว่าเป็นตัวเลขของนักท่องเที่ยวต่างชาติสูงที่สุดตั้งแต่ต้นปีนี้ เพิ่มขึ้น 9.9% เมื่อเทียบกับเดือนที่แล้ว

นอกจากนี้ ภาพยนตร์เรื่อง “A Tourist’s Guide to Love คู่มือรักฉบับนักท่องเที่ยว” ที่ถ่ายทำในเวียดนาม ช่วยดึงดูดความสนใจของผู้ชมทั่วโลกและยังนำเสนอถึงความงามของภูมิประเทศและวัฒนธรรมในท้องถิ่น

ที่มา : https://en.dangcongsan.vn/tourism/vietnam-greets-37-million-foreign-tourists-in-four-months-604229.html

“เวียดนาม” เผยยอดจดทะเบียนธุรกิจใหม่ ม.ค.-เม.ย. ลดลงฮวบ!

สำนักงานสถิติแห่งชาติเวียดนาม (GSO) เปิดเผยภาพรวมการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจเดือน เม.ย. 2566 พบว่ามีการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่จำนวน 16,000 แห่ง และทุนจดทะเบียนรวม 154,600 พันล้านดอง เพิ่มขึ้น 12.3% และ 6.2% เมื่อเทียบกับเดือนที่แล้ว ตามลำดับ ทำให้จำนวนรวมในช่วงเดิอน ม.ค.-เม.ย. 2566 มียอดการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่จำนวน 49,900 แห่ง และตัวเลขทุนจดทะเบียนรวม อยู่ที่ 465,000 พันล้านดอง โดยในแง่ของจำนวนธุรกิจใหม่เพิ่มขึ้นเพียง 0.6% แต่ทุนจดทะเบียนรวมลดลงอย่างมาก

ที่มา : https://english.thesaigontimes.vn/registered-capital-per-enterprise-in-vietnam-declines-in-jan-apr/

“เมียนมา” ชี้ธุรกิจอาหารแปรรูป 1,270 แห่ง ขึ้นทะเบียน GACC ภายใน 18 เดือน

กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่ามีบริษัทและโรงงานอาหารแปรรูปในเมียนมา จำนวนรวมทั้งสิ้น 1,270 แห่ง ทำการยื่นขอจดทะเบียนกับศุลกากรจีน (GACC) ประกอบไปด้วย 2,200 รายการ ภายในระยะเวลาเพียง 18 เดือน โดยการขึ้นทะเบียนตามระเบียบ 248 และ 249 ผู้ส่งออกอาหารจำเป็นต้องขึ้นทะเบียน GACC ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2565 ทั้งนี้ จากข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2564 – 28 เม.ย. 2566 พบว่ามีโรงงานทำการยื่นคำขอจดทะเบียน GACC จำนวน 1,270 แห่ง และจำนวนรายการวมทั้งสิ้น 2,279 รายการที่มาจากกรมส่งเสริมการเกษตร 2,136 รายการ ตามมาด้วยกรมประมง 120 รายการ, กรมปศุสัตว์ 14 รายการ และสำนักงานอาหารและยา 9 รายการ

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/over-1270-myanmar-food-processing-businesses-apply-for-gacc-within-18-months/#article-title