เลือกตั้งดัน GDP ไทย

จากข้อมูลธนาคารโลก คาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 2566 จะเติบโตร้อยละ 3.6 ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดิมที่มีการคาดการณ์ไว้เมื่อเดือนธันวาคม 2565 โดยเป็นอัตราที่เพิ่มขึ้นจากในปี 2565 ที่เติบโตร้อยละ 2.6 และคาดว่าในปี 2567 เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวที่ร้อยละ 4.1 ขณะที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ  หรือ IMF  ยังคงคาดการณ์เศรษฐกิจประเทศไทยสำหรับปีนี้และปีหน้า โดยคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัว 3.7% ในปีนี้ และ 3.6% ในปีหน้า เมื่อเทียบกับที่เคยคาดการณ์ไว้ในเดือนต.ค. แต่ลดคาดการณ์การขยายตัวเฉลี่ยสำหรับ 5 ประเทศสมาชิกอาเซียน ซึ่งประกอบด้วยอินโดนีเซีย, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์,  สิงคโปร์ และไทย

อย่างไรก็ตาม มีการจับตาปัจจัยเรื่องการเลือกตั้ง ที่จะช่วยดันเศรษฐกิจไทย โดยศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจคาดว่าช่วงการจัดกิจกรรมหาเสียงเต็มรูปแบบของพรรคการเมืองทุกพรรคไปจนถึงวันเลือกตั้งจริง จะมีเม็ดเงินสะพัดทุกกิจกรรมลงในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศในระดับรากหญ้าไม่ต่ำกว่า 40,000-50,000 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาสที่ 2 เติบโตไปพร้อมกับการท่องเที่ยว โดยดันจีดีพีไทยให้สูงขึ้นในช่วงไตรมาสดังกล่าว 1-1.5% และคาดว่าจะดันให้เศรษฐกิจไทยในช่วงตลอดปี 2566 มีอัตราการเติบโตเป็นบวก 3-4% ได้อย่างแน่นอน

ที่มา : https://siamrath.co.th/c/437831

2022 กัมพูชานำเข้าผ้าผืนจากไทยพุ่งแตะ 157 ล้านดอลลาร์

แม้ว่าสถานการณ์โควิด-19 จะสร้างความผันผวนให้กับภาคการค้าระหว่างประเทศ แต่การส่งออกเครื่องแต่งกายของกัมพูชาไปยังไทยกลับเพิ่มขึ้นไปแตะที่มูลค่า 57.6 ล้านดอลลาร์ ขยายตัวถึงร้อยละ 40.48 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่การนำเข้าผ้าผืนของกัมพูชาจากไทยก็ปรับตัวขึ้นเช่นกันอยู่ที่มูลค่า 157 ล้านดอลลาร์ ขยายตัวร้อยละ 27.6 ในปี 2022 ซึ่งไทยยังคงเป็นแหล่งนำเข้าวัตถุดิบในการผลิตเสื้อผ้าที่สำคัญ โดยเฉพาะ ผ้าผืน เส้นด้าย และเส้นใย ขณะที่ปี 2025 กัมพูชาและไทยได้ตั้งเป้าที่จะผลักดันให้ปริมาณการค้าทวิภาคีขึ้นไปแตะที่ 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501269748/cambodias-fabric-imports-from-thailand-at-157-million-in-2022/

เอกอัครราชทูตไทยประจำ สปป.ลาว เข้าเยี่ยมชมเขตเศรษฐกิจพิเศษสะหวัน

เขตเศรษฐกิจพิเศษสะหวัน (Savan Park) และ Savannakhet Dry Port ได้ให้การต้อนรับคณะผู้แทนไทย นำโดยเอกอัครราชทูตไทยประจำ สปป.ลาว นางสาวมรกต ศรีสวัสดิ์ ในการเข้าเยือนพื้นที่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจโอกาสทางการค้าและการลงทุนระหว่างไทย และสปป.ลาว โดยปัจจุบันภายในเขตเศรษฐกิจพิเศษมีบริษัทเข้าลงทุนทั้งหมด 78 บริษัท ซึ่งเขตเศรษฐกิจดังกล่าวมีประสิทธิภาพและข้อได้เปรียบในหลายๆด้าน โดยเฉพาะทางด้านโลจิสติกส์ที่มีท่าเรือบกภายในเขตเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งในปี 2022 การค้าผ่านเขตเศรษฐกิจพิเศษ แบ่งเป็นมูลค่าการนำเข้ามากกว่า 200 ล้านดอลลาร์ และคิดเป็นการส่งออกที่มีมูลค่า 207 ล้านดอลลาร์ ตามการรายงานล่าสุดของท่าเรือบก

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten65_Thai_y23.php

ส่งออกนมและผลิตภัณฑ์ไปตลาดคู่ FTA เดือนม.ค.66 เพิ่ม 8.4% ตลาดอาเซียนเบอร์ 1

นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าส่งออกนมและผลิตภัณฑ์นมไปตลาดคู่ FTA เดือนม.ค.66 มีมูลค่ากว่า 49 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่ม 8.4% ตลาดอาเซียนเบอร์ 1 เพิ่ม 8.6% มีสัดส่วน 86.5% ของการส่งออกนมและผลิตภัณฑ์ทั้งหมด ตลาดกัมพูชา ฟิลิปปินส์ และสปป.ลาว เติบโตได้ดี ส่วนสินค้ามาแรงนม UHT นมเปรี้ยวและโยเกิร์ต นมถั่วเหลืองที่มีนมผสม ระบุปัจจุบัน 14 ประเทศคู่ FTA ยกเลิกเก็บภาษีนมและผลิตภัณฑ์นมจากไทยแล้ว เหลือแค่ 4 ประเทศที่ยังเก็บอยู่

ที่มา : https://www.agrinewsthai.com/domestic-animal/61399

สปป.ลาว เปิด ด่านค้าชายแดน12 แห่ง หนุนส่งออกผลไม้ไทยไปจีน

ตัวเลขการส่งออกของไทยเดือนแรก (ม.ค.) ปี 2566 ที่ 2.02 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หดตัว 4.5% เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ทั้งยังเป็น การหดตัวต่อเนื่อง 4 เดือนติดต่อกัน นับตั้งแต่เดือน ต.ค. 2565 หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัยจะหดตัว 3.0% ทั้งนี้อัตราการหดตัวน้อยลงจากเดือนก่อนหน้า จากผลกระทบการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและค่าเงินบาทผันผวน สอดคล้องกัน ตัวเลขการค้าชายแดนไทย-สปป.ลาว ผ่านด่านพรมแดนหนองคาย เดือนม.ค. 2566 หดตัวทั้งมูลค่าการค้าชายแดน การส่งออกและการค้าผ่านแดน ด้วยตัวเลขมูลค่าการค้าชายแดนรวม 7,149.38 ล้านบาท ลดลง 7.50% แต่ยอดส่งออกยังสูงกว่านำเข้าได้ดุลการค้า 4,156.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า จำนวน 91.50 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 2.25%

อีกทั้ง โอกาสนี้ไทยได้ขอให้ สปป.ลาว เร่งรัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาเปิดด่านพรมแดนที่ติดกับไทยเพิ่มอีก 12 แห่ง และช่วยอำนวยความสะดวกการขนส่งสินค้าไทย ผ่านแดน สปป.ลาวไปยังจีน เพื่อให้คล่องตัวมากขึ้น โดยเฉพาะสินค้าผลไม้ ซึ่งกำลังเข้าสู่ช่วงฤดูที่ผลผลิตออกสู่ตลาดจำนวนมากเร็วๆ นี้

ที่มา : https://www.thansettakij.com/business/trade-agriculture/559913

“เมียนมา” เผยแนวโน้มราคาข้าวโพดในประเทศปรับตัวลดลง

สภาหอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งภูมิภาคย่างกุ้ง เปิดเผยข้อมูล ณ สิ้นเดือน ม.ค. พบว่าราคาข้าวโพดอยู่ในระดับทรงตัวที่ 1,300 จัตต่อ viss และได้ปรับตัวลดลงเหลืออยู่ที่ 1,200 จัตต่อ viss ในเดือน ก.พ. ทั้งนี้ สมาคมอุตสาหกรรมข้าวโพดเมียนมาระบุว่าในปัจจุบัน เมียนมาส่งออกข้าวโพดไปยังจีนและไทยผ่านชายแดน และยังส่งออกไปทางเรือไปยังจีน อินเดีย เวียดนามและฟิลิปปินส์ โดยประเทศไทยได้รับอนุญาตให้นำเข้าข้าวโพดจากเมียนมาภายใต้ภาษีศุลกากรเป็นศูนย์ (แบบ Form-D) ระหว่างวันที่ 1 ก.พ. – 31 ส.ค. อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยได้กำหนดอัตราภาษีสูงสุดที่ 73% สำหรับในกรณีที่มีการนำเข้าข้าวโพดในช่วงฤดูข้าวโพดของไทย นอกจากนี้ อู มิน ข่าย ประธานสมาคมอุตสาหกรรมข้าวโพด เมียนมา กล่าวว่าทิศทางการส่งออกข้าวโพดไปยังต่างประเทศจะเกินกว่า 2 ล้านตัน ในปี 2566

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/corn-price-on-downward-trend-in-domestic-market/#article-title

“ราคาข้าวเวียดนาม” ยังคงพุ่งสูงขึ้นในตลาดโลก

ตามรายงานของกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า (MoIT) เปิดเผยว่าราคาส่งออกข้าวหัก 5% ของเวียดนาม ปรับตัวเพิ่มสูงที่สุดในตลาดโลก นับตั้งแต่เดือน ส.ค.2565 แซงหน้าข้าวไทยที่อยู่ระดับ 15-27 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน และอินเดียที่ 40-50 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน และเมื่อปีที่แล้ว ปริมาณการส่งออกข้าวของเวียดนาม 7.1 ล้านตัน สูงที่สุดในรอบ 10 ปี ถึงแม้ว่าปริมาณการส่งออกข้าวลดลงมากกว่า 20% ในเดือนแรกของปีนี้ แต่ราคาส่งออกข้าวมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เฉลี่ยอยู่ที่ 519 ดอลลาร์สหรัฐต่อตันในช่วง 2 เดือนแรกของปี ทั้งนี้ สมาคมอาหารเวียดนาม (VFA) ระบุว่าราคาส่งออกข้าวหัก 5% ในปัจจุบัน อยู่ที่ 463 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน เพิ่มขึ้น 16% เมื่อเทียบปีที่แล้ว นอกจากนี้ สถานการณ์การส่งออกข้าวของเวียดนามเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงจากซัพพลายเออร์ต้นทุนต่ำรายอื่นๆ เช่น อินเดียและปากีสถาน รวมถึงข้อจำกัดของการกระจายตลาด

ที่มา : https://hanoitimes.vn/vietnams-rice-prices-stay-highest-in-world-market-323203.html

“สปป.ลาว” แบนนำเข้าเนื้อสุกรจากเวียดนาม

กระทรวงกสิกรรมและป่าไม้ สปป.ลาว ประกาศระงับการนำเข้าเนื้อสุกรและเนื้อสุกรแปรรูปจากประเทศเวียดนามและประเทศอื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังและตรวจสอบการนำเข้าอย่างผิดกฎหมายที่บริเวณชายแดนและสนามบินนานาชาติ นอกจากนี้ เนื้อสุกรที่ลักลอบนำเข้าหรือนำเข้าอย่างผิดกฎหมายในสปป.ลาวจะต้องถูกทำลาย ทั้งนี้ เมื่อปี 2563 สปป.ลาวระงับการนำเข้าเนื้อสุกรจากประเทศจีนและไทย หลังจากตรวจพบการแพร่ระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร 7 ครั้ง โดยมีหมูตาย 973 ตัวในแขวงสาละวัน และล่าสุดในเดือนมกราคม 2566 สปป.ลาวก็ระงับการนำเข้าเนื้อสุกรจากไทยเช่นเดียวกัน

ที่มา : https://vietnamnet.vn/en/laos-suspends-pork-imports-from-vietnam-2123587.html

สปป.ลาว ลงนาม MoU เพื่ออำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าทางผ่านแดน

บริษัทของทั้ง สปป.ลาว และไทย ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจไตรภาคี (MoU) ซึ่งได้ลงนาม ณ เวียงจันทน์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่ออำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าผ่านทางรถไฟระหว่าง สปป.ลาว-ไทย และ สปป.ลาว-จีน โดยข้อตกลงนี้ลงนามโดยผู้อำนวยการรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งชาติลาว (LNR) ร่วมกับประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Global Multimodal Logistics, รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Pan-asia Silk Road และประธานบริษัท Kaocharoen Train Transport ซึ่ง LNR จะประสานงาน อำนวยความสะดวก ซึ่งตั้งเป้าหมายในการขนส่งทุเรียนและผลไม้อื่นๆ อย่างน้อย 20,000 ตันต่อเดือน จากไทยไปยังตลาดจีน โดยหลังจากทางรถไฟสาย สปป.ลาว-จีน เปิดให้บริการในเดือนธันวาคม 2021 ความต้องการทั้งการขนส่งสินค้าและการขนส่งผู้โดยสารปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว สะท้อนจากจำนวนผู้โดยสารที่พุ่งสูงขึ้น ในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ แตะ 417,400 คน เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 256.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่การขนส่งสินค้ารวมอยู่ที่ 647,700 ตันในช่วงเวลาเดียวกัน เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 320

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freeContent/FreeConten57_Deal_y23.php

จุดผ่านแดน สะตึงบท-หนองเอี่ยน ระหว่างกัมพูชา-ไทย แล้วเสร็จกว่า 80%

Sun Chanthol รัฐมนตรีว่าการกระทรวงโยธาธิการและการขนส่ง ระบุว่า ณ เดือนมีนาคม 2022 โครงการจุดผ่านแดนระหว่างประเทศไทยและกัมพูชา ในบริเวณสะตึงบท-หนองเอี่ยน ซึ่งใช้เงินลงทุนประมาณ 26.42 ล้านดอลลาร์ เป็นการร่วมลงทุนระหว่างทางการกัมพูชาและไทย ปัจจุบันการก่อสร้างแล้วเสร็จไปแล้วประมาณร้อยละ 82.30 โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม 2022 ล่าช้าไปกว่ากำหนดการ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งโครงการดังกล่าวมีจุดประสงค์หลักเพื่อลดสภาพการจราจรที่ติดขัดในจังหวัดปอยเปต รวมถึงเป็นการกระตุ้นภาคการค้าและภาคการท่องเที่ยวภายในประเทศระหว่างกัน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501259155/cambodia-thailand-stung-bot-ban-nong-ian-international-border-crossing-more-than-80-percent-completed/