‘เวียดนาม’ คงรักษาอัตราเงินเฟ้อต่ำ ปี 67

จากการประชุมของรัฐบาลที่เมืองฮานอย โดยมีรองนายกรัฐมนตรี เล มินห์ ไค เป็นประธาน ทางกระทรวงการคลังกล่าวในที่ประชุมว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของเวียดนาม มีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นอยู่ที่ระดับ 0.26 -0.39% ในช่วงที่เหลือของปีนี้ เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในกรอบ 4.0-4.5% ในปี 2567 และยังได้กล่าวชี้ให้เห็นถึงภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังคงดิ้นร้นฟื้นตัวและความตึงเครียดทางภูมิศาสตร์โลก รวมถึงความผันผวนของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ พลังงานและทองคำ

นอกจากนี้ สำนักงานสถิติเวียดนาม (GSO) เปิดเผยว่าดัชนีราคาผู้บริโภคในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ เพิ่มขึ้น 0.31%YoY เดือน ม.ค. และ 1.04%YoY เดือน ก.พ. ขณะที่เดือน มี.ค. ลดลง 0.23% ทำให้ดัชนี CPI เฉลี่ยในไตรมาสแรกของปี เพิ่มขึ้น 3.77%YoY

อย่างไรก็ดี รองนายกรัฐมนตรี เล มินห์ ไค ได้สั่งให้กระทรวงและหน่วยงานของรัฐฯ ติดตามสถานการณ์ตลาดและเตรียมแนวทางแก้ไข เพื่อเข้าแทรกแซงเมื่อจำเป็นเพื่อรักษาระดับเงินเฟ้อ

ที่มา : https://vietnamnews.vn/economy/1654489/keeping-cpi-low-key-to-inflation-control-this-year.html

โรงงาน 11 แห่งผลิตปูนซีเมนต์ได้ 8 ล้านตันต่อปี

U Than Zaw Htay กรรมการผู้จัดการบริษัท No 1 Heavy Industries Enterprise และ No 2 Heavy Industries Enterprise ภายใต้กระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า โรงงานปูนซีเมนต์ 11 แห่งผลิตปูนซีเมนต์ได้มากกว่า 8 ล้านตันต่อปี โดยภาคเอกชนมีโรงงานปูนซีเมนต์ 16 แห่ง ขณะที่รัฐฯดูแล 3 แห่ง หากโรงงานทั้งหมดเปิดดำเนินการ จะสามารถผลิตปูนซีเมนต์รวมกันได้มากกว่า 16 ล้านตัน อย่างไรก็ดี การบริโภคในท้องถิ่นต่อปีอยู่ที่ประมาณ 10-11 ล้านตัน U Than Zaw Htay กล่าวว่า “เราสามารถตอบสนอง 2 ใน 3 ของความต้องการในท้องถิ่นได้ โดยในปัจจุบัน No 33 Heavy Industry (Kyaukse) ผลิต 5,000 ตันต่อวัน รวม 1.8 ล้านตันในปีงบประมาณ 2566-2567 นอกจากนี้ ในแต่ละปี บริษัทจัดหาปูนซีเมนต์จำนวน 70,000 ตันสำหรับโครงการโครงสร้างพื้นฐานของรัฐ นอกจากนี้ ยังมีความร่วมมือกับภาคเอกชนในการจัดการอุตสาหกรรมหนัก 31 (Thayet) และอุตสาหกรรมหนัก 32 (Kyangin)”

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/11-factories-produce-8-million-tonnes-of-cement-annually/

ราคาทุเรียนไทยสูงครองตลาด

ทุเรียนจากประเทศไทย ปัจจุบันครองตลาดทุเรียนในประเทศเมียนมา เนื่องจากมีราคาสูง ซึ่งมีราคาโดยทั่วไปอยู่ที่ 40,000-50,000 จ๊าดต่อลูก ทั้งนี้ ในตลาดย่างกุ้ง ราคาทุเรียนไทยตอนนี้มีตั้งแต่ขั้นต่ำ 20,000 จ๊าดต่อลูกไปจนถึงมากกว่า 100,000 จ๊าดต่อลูก ซึ่งขึ้นอยู่กับขนาด อย่างไรก็ดี พ่อค้าในตลาดย่างกุ้งยังระบุว่า แม้ทุเรียนไทยมีจะได้รับความนิยมมากในตลาดทุเรียนในประเทศ แต่เนื่องจากมีราคาแพงเมื่อเทียบกับทุเรียนเมียนมา จึงทำให้ยอดขายทุเรียนไทยยังอยู่ในระดับต่ำ นอกจากนี้ ทุเรียนของเมียนมามีราคาถูกกว่าและจะเริ่มมีผลิตมากขึ้นในเดือนมิถุนายน ซึ่งคาดว่ายอดขายทุเรียนพันธุ์เมียนมาจะสูงขึ้น เนื่องจากในตลาดเมียนมาผู้บริโภคส่วนใหญ่นิยมทานทุเรียน

ที่มา : https://www.gnlm.com.mm/expensive-grafted-durians-dominate-the-market/#article-title

‘ธนาคารโลก’ คาด GDP เวียดนามปี 67 โต 5.5%

ธนาคารโลก (WB) คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจเวียดนามจะขยายตัว 5.5% ในปีนี้ และเศรษฐกิจจะค่อยๆ ขยายตัว 6% ในปี 2568 และ 6.5% ในปี 2569 จากการหนุนของอุปสงค์ต่างประเทศและการลงทุนของภาคเอกชนที่กลับมาฟื้นตัวดีขึ้น โดยเป็นการตั้งอยู่บนสมมติฐานว่าการส่งออกภาคอุตสาหกรรมฟื้นตัวในระดับปานกลางในปีนี้ ส่งผลให้เศรษฐกิจในไตรมาสที่ 4/66 ขยายตัว 8.5%YoY และเศรษฐกิจจะขยายตัวในไตรมาสแรกของปีนี้ 17.2%YoY

ทั้งนี้ ตัวเลขเงินเฟ้อคาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยจาก 3.2% ในปี 2566 ขึ้นมาอยู่ที่ 3.5% ในปีนี้ เนื่องมาจากต้นทุนทางด้านการศึกษาและค่าบริการด้านสุขภาพ

อย่างไรก็ ถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะมีความขัดแย้งทางการทหารในยูเครนและตะวันออกกลาง แต่ราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์กลับจะทยอยลดลง ส่งผลให้ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) คาดว่าจะอยู่ที่ 3% ในปี 2568 และปี 2569 โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ราคาสินค้าโภคภัณฑ์และพลังงานที่มีเสถียรภาพ

ที่มา : https://english.thesaigontimes.vn/vietnams-gdp-to-grow-5-5-this-year-wb/

สปป.ลาว เผย ทางด่วนหลวงพระบาง-วังเวียง ใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้ว

ความคืบหน้าแผนงานการก่อสร้างทางด่วนเชื่อมต่อระหว่างนครหลวงเวียงจันทน์-บ่อเต็น แขวงหลวงน้ำทา ติดกับชายแดนจีน ที่แบ่งการก่อสร้างออกเป็น 4 ระยะ ที่ผ่านมาดำเนินงานในระยะที่ 1 เวียงจันทน์-หลวงพระบาง ระยะทาง 109 กม. เสร็จสิ้นแล้วตั้งแต่ปี 2564 คิดเป็นสัดส่วนเพียง 9.3% ของความยาวรวมของทางด่วนเวียงจันทน์-บ่อเต็น 1,097.15 กม. ขณะนี้อยู่ในช่วงระยะที่ 2 คือ การก่อสร้างเส้นทางจากหลวงพระบาง-วังเวียง โดยปัจจุบันสิ้นสุดขั้นตอนการสำรวจและออกแบบเบื้องต้นแล้ว ส่วนระยะที่ 3 จากหลวงพระบาง-แขวงอุดมไซ อยู่ระหว่างการจัดทำข้อตกลงความร่วมมือด้านการพัฒนากับนักลงทุน สำหรับระยะที่ 4 ตั้งแต่แขวงอุดมไซ-บ่อเต็น ได้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจด้านการก่อสร้างกับนักลงทุนแล้ว แต่ขณะนี้อยู่ในระหว่างการต่ออายุ สำหรับทางด่วนระหว่างเวียงจันทน์-หลวงพระบาง ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากสามารถลดเวลาการเดินทางระหว่างเมืองหลวงและจุดท่องเที่ยวจาก 3.5 ชั่วโมง เหลือเพียง 1 ชั่วโมง ทำให้สามารถเดินทางกลับได้ภายในวันเดียว ทั้งนี้ เส้นทางด่วนสายนี้รัฐบาล สปป.ลาว ถือหุ้น 5% และกลุ่มบริษัทยูนนานก่อสร้างและการลงทุน (YCIH) ของจีน ถือหุ้น 95%

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_77_Plansfor_y24.php

กัมพูชาจ่อส่งออกมะพร้าวไปยังปักกิ่งปีนี้

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (22 เม.ย.) กัมพูชาจัดพิธีลงนามส่งออกมะพร้าวไปยังจีนอย่างเป็นทางการ หลังคาดว่าจะมีการส่งออกมะพร้าวสดชุดแรกภายในปีนี้ ซึ่งพิธีจัดขึ้น ณ กรุงพนมเปญ นำโดย Sun Chanthol รองนายกรัฐมนตรีและรองประธานสภาเพื่อการพัฒนากัมพูชา ร่วมกับ Wang Yi รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน ซึ่งกัมพูชาและจีนเคยได้ลงนามในข้อตกลงด้านสุขอนามัยพืชเพื่อส่งออกมะพร้าวสดจากกัมพูชาไปยังจีนเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว ปัจจุบันกัมพูชามีสวนมะพร้าวจำนวน 13 แห่ง และโรงงานแปรรูป 5 แห่ง ที่ได้รับสิทธิ์ในการส่งออกมะพร้าวโดยตรงไปยังประเทศจีน ด้านรายงานของกระทรวงเกษตร ป่าไม้ และป่าไม้ แสดงให้เห็นว่าในปี 2022 กัมพูชาได้ปลูกมะพร้าวในพื้นที่รวม 19,998 เฮกตาร์ โดยสามารถเก็บเกี่ยวมะพร้าวได้ 14,225 เฮกตาร์ หรือร้อยละ 71 สำหรับการผลิตมะพร้าวของกัมพูชาเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.4 หรือคิดเป็นจำนวน 258,935 ตัน

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501476326/coconut-exports-to-beijing-to-commence-this-year/

กัมพูชา-เกาหลี ร่วมลงนามในข้อตกลงหวังอำนวยความสะดวกด้านแรงงานระหว่างประเทศ

กระทรวงแรงงานและการฝึกอบรมวิชาชีพได้ลงนามในข้อตกลงกับหน่วยพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของสาธารณรัฐเกาหลี เพื่อให้การจัดหาแรงงานชาวกัมพูชาภายใต้ระบบใบอนุญาตการจ้างงาน (EPS) ของเกาหลี เพื่ออำนวยความราบรื่นด้านการจ้างงานระหว่างประเทศ หลัง Heng Sour รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและการฝึกอบรมอาชีวศึกษา เข้าพบ Lee Woo Yong หัวหน้าหน่วยพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ กระทรวงการจ้างงานและแรงงานแห่งสาธารณรัฐเกาหลี (HRDK) ในการประชุมเมื่อวันที่ 19 เม.ย. โดยเกาหลีกำลังกลายเป็นตลาดแรงงานที่น่าสนใจสำหรับแรงงานกัมพูชา ซึ่งโครงการริเริ่มใหม่นี้ร่วมกับเกาหลีจะไม่เพียงมุ่งเน้นไปที่การสรรหาบุคลากรเท่านั้น แต่ยังเสริมสร้างทักษะการจ้างงานของคนงานชาวกัมพูชาในอนาคตร่วมด้วย ด้านระบบใบอนุญาตการจ้างงานของเกาหลี (EPS) อนุญาตให้นายจ้างในเกาหลีที่ไม่สามารถจ้างคนในท้องถิ่น จ้างแรงงานต่างชาติได้อย่างถูกกฎหมาย ซึ่งอุตสาหกรรมบางประเภทในเกาหลีที่กำลังเผชิญกับการขาดแคลนแรงงาน ได้แก่ เกษตรกรรม การประมง การก่อสร้าง และการผลิต เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและป้องกันการทุจริต

ที่มา : https://www.khmertimeskh.com/501476322/ministry-signs-agreement-with-korea-for-ease-of-overseas-recruitment/

‘IMF’ ชี้เวียดนาม จุดหมายปลายทางของนักลงทุนต่างชาติ

จากการประชุมสภาผู้ว่าการธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ นายเปาโล เมดาส หัวหน้าฝ่ายการคลังของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ประจำประเทศเวียดนาม กล่าวว่าเวียดนามเป็นจุดหมายปลายทางที่น่าดึงดูดของนักลงทุนต่างชาติ จากปัจจัยหนุนทั้งด้านการเติบโตทางเศรษฐกิจและความมีเสถียรภาพ ตลอดจนตลาดภายในประเทศที่มีขนาดใหญ่และความพร้องทางการศึกษาของคนรุ่นใหม่

โดยจากข้อมูลของ Medas เปิดเผยว่าถึงแม้ในปัจจุบันจะเผชิญกับความไม่มั่งคงทางงภูมิรัฐศาสตร์โลก แต่เศรษฐกิจเวียดนามขยายตัว 5.66% ในไตรมาสแรกของปีนี้ และทิศทางการส่งออกที่เติบโตดีขึ้น

นอกจากนี้ เศรษฐกิจเวียดนามยังได้รับปัจจัยหนุนจากการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) เพิ่มขึ้นอย่างมาก ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของห่วงโซ่อุปทาน

ที่มา : https://en.vietnamplus.vn/vietnam-an-enticing-destination-for-foreign-investors-imf-expert/284911.vnp

‘ธุรกิจพลาสติกเวียดนาม’ ปั้นรายได้พุ่งจากความต้องการตลาดโลก

ผู้ให้บริการข้อมูลข่าวสารชั้นนำในตลาดเคมีภัณฑ์ระดับโลก ‘Independent Commodity Intelligence Services’ เปิดเผยผลการรายงาน คาดว่าความต้องการเม็ดพลาสติก (Plastic Resin) ของทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นประมาณ 4.4% ต่อปี ในปี 2566-2568 โดยประเทศจีน กลุ่มประเทศในเอเชียแปซิฟิกและยุโรป นับเป็นตลาดหลักของเม็ดพลาสติกระดับโลก

ทั้งนี้ ผู้ผลิตพลาสติกรายใหญ่ของเวียดนาม ‘An Thanh Bicsol’ เป็นหนึ่งในซัพพลายเออร์เม็ดพลาสติกชั้นนำของประเทศและส่งออกผลิตภัณฑ์พลาสติกไปยัง 70 ประเทศทั่วโลก รวมถึงมีกำลังการผลิตเฉลี่ย 35,000 ตันต่อเดือน ในขณะที่รายได้ส่วนใหญ่ของธุรกิจมาจากโพลีเอทิลีนเรซินและโพรพิลีน ซึ่งตลาดส่งออกสำคัญมาจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คิดเป็นสัดส่วน 37% ของการส่งออกทั้งหมด รองลงมาเอเชียใต้และตะวันออกกลาง 32% สหภาพยุโรป อเมริกา แอฟริกาและจีน ตามลำดับ

ที่มา : https://vir.com.vn/vietnamese-plastic-firms-to-cash-in-on-global-demand-110578.html

นายกฯ สปป.ลาว จะนำประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เพื่อกระตุ้นการพัฒนาที่ยั่งยืน

นายสอนไซ สีพันดอน นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว กล่าวในระหว่างเข้าร่วมประชุมณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมสำหรับเอเชียและแปซิฟิก ครั้งที่ 80 ถึงการนำนวัตกรรมดิจิทัลที่เป็นหัวใจสำคัญในการกระตุ้นความก้าวหน้าไปสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ซึ่งปัจจุบันยังดำเนินไปอย่างช้าๆ ตามรายงานขององค์การสหประชาชาติ ซึ่งชี้ให้เห็นว่าปัจจุบันการปฏิบัติตาม SDGs นั้น เป็นไปตามแผนเพียง 15% เท่านั้น ดังนั้น การใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลจะเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่สำคัญที่สุดในการเร่งการดำเนินการ SDG ในประเทศลาว ตั้งแต่บัดนี้จนถึงปี 2030 เพื่อสร้างขีดความสามารถในด้านนวัตกรรมดิจิทัล เพื่อช่วยพัฒนาเส้นทางการพัฒนาที่ยั่งยืน

ที่มา : https://www.vientianetimes.org.la/freefreenews/freecontent_76_PM_y24.php